
ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ (Complete Aged Society) ตั้งแต่เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนการเกิดของประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่อัตราผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นแบบสวนทาง จากสำนักงานสถิติแห่งชาติคาดว่าปี 2583 จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นผลมาจากแนวคิดที่คนอยากอยู่เป็นโสดเพิ่มขึ้น หรือคู่รักบางคู่ที่ไม่มีแพลนจะมีลูก จึงทำให้สังคมในปัจจุบันเริ่มหันมาสนใจชีวิตหลังเกษียณกันมากขึ้น
ไม่ใช่เฉพาะคนที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ 50 ปีขึ้นไป แต่ยังรวมถึงกลุ่มวัยทำงานหรือแม้แต่ชาวเจน Z อย่างเราๆ (?) ก็เริ่มวางแผนการเงินและมองหาที่อยู่อาศัยที่ลงตัวกับชีวิตบั้นปลายกันมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นช่วงวัยที่มีกำลังในการเก็บเงินเพื่ออนาคตได้อย่างเต็มที่ โดยที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุหลายคนมักคุ้นเคยกับคำว่า “บ้านพักคนชรา” กันอยู่แล้ว อย่างเช่น บ้านบางแค ที่อยู่ในการดูแลของรัฐบาล คิดค่าบริการแบบเช่ารายเดือน มีราคาถูก (1,500 – 2,000 บาท/เดือน) เข้าถึงได้ง่าย ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ทำให้มีผู้ลงทะเบียนเข้าคิวเป็นจำนวนมาก เรียกว่ารอกันเป็นสิบปีเลยก็มี
สำหรับคนที่มีรายได้ขึ้นมาหน่อย (มีบำนาญ) หรือมีเงินก้อน ไม่อยากรอนาน ก็สามารถขยับมาเลือกบ้านพักคนชราของเอกชนได้ ค่าบริการจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 80,000 บาท/เดือน ซึ่งความจริงแล้วที่พักอาศัยหรือสถานที่ดูแลผู้สูงอายุมีมากกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศไทย แต่ก็ถือว่ายังไม่เพียงพอต่ออัตราการเพิ่มสูงขึ้นของผู้สูงอายุ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านคนต่อปี มองในอีกแง่นึงก็เป็นความท้าทายของตลาดอสังหาฯ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างที่พักอาศัยที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุที่อาจเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในอนาคตได้อย่างไร..?
เพราะไม่ใช่ชาวสูงวัยทุกคนจะต้องการเจ้าหน้าที่หรือผู้ดูแลแบบใกล้ชิด เห็นได้จากคนอายุ 50 – 60 ปีสมัยนี้ ยังเป็นกลุ่มที่มีความ Active สูง ร่างกายแข็งแรง สามารถดูแลตัวเองได้ ประกอบกับเป็นช่วงวัยที่มีอิสระและเวลาว่าง ทำให้ผู้สูงอายุบางกลุ่มยังมีความต้องการที่จะเข้าสังคม และอยากทำกิจกรรมที่หลากหลายไม่แพ้คนวัยหนุ่ม – สาว จึงเกิดเป็นเทรนด์บ้านและคอนโดสำหรับผู้สูงอายุ ที่ภายในโครงการจะมี Facilities รองรับไว้อย่างครบครัน พร้อมกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกกระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังมีบริการเสริมด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ที่คอยดูแลแบบครบครัน ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกที่พักอาศัย ก็ต้องรู้ก่อนว่าเราจัดอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความต้องการในการดูแลประเภทไหนก่อนนะคะ
รูปแบบที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
- Independent Living : เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ สุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องมีผู้ดูแลตลอดเวลา ชอบความอิสระ เป็นส่วนตัว จะเลือกอยู่อาศัยต่อในบ้านเดิมก็ได้ หรือจะเลือกที่พักอาศัยอย่างบ้านหรือคอนโดผู้สูงอายุ ที่มีการออกแบบพื้นที่ใช้งานและติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสมมาให้ตามหลัก Universal Design โดยเฉพาะ รวมถึงมี Facilities ที่ส่งเสริมด้านการดูแลสุขภาพ ชะลอความเสื่อม มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และมีกิจกรรมให้เลือกทำได้หลากหลาย
- Assisted Living : เป็นกลุ่มผู้สูงอายุแบบกึ่งพึ่งพา อาจจะมีโรคประจำตัวที่ต้องการผู้ดูแลใกล้ชิด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำกิจวัตรประจำวันอย่างการกิน , การอาบน้ำ ต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ เหมาะกับที่พักอาศัยที่มีเจ้าหน้าที่หรือบุคคลากรทางการแพทย์คอยดูแลสม่ำเสมอ
- Nursing Home : เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการได้รับการดูแลเต็มรูปแบบ มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ , โรคพาร์คินสันขั้นรุนแรง หรือผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ จำเป็นต้องมีบุคคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มพิเศษที่ต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องเลือกบ้านพักคนชราหรือสถานบริการที่มีความเฉพาะทาง ทั้งสถานที่และความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลายคนอาจมีความเข้าใจผิดว่าบ้านพักคนชราจะสามารถรองรับผู้สูงอายุได้ทุกประเภท
ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกที่พักอาศัยแบบไหนก็ควรต้องสอบถามถึงบริการให้ครอบคลุม รวมถึงแผนในอนาคต หากเกิดอุบัติเหตุหรือเป็นโรคร้ายในภายหลัง สถานบริการนั้นๆจะมีวิธีการดูแลหรือส่งต่อการรักษาอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาในภายหลัง ซึ่งขั้นต่อมาที่เราจะต้องเช็คเพื่อเตรียมความพร้อมนอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว ก็คือสุขภาพด้านการเงินนั่นเอง
เพราะเมื่อถึงวัยเกษียณแล้วความสามารถในการกู้เงินมาซื้อบ้าน คอนโดใหม่จะน้อยลง ลองเช็คดูว่าเรามีเงินก้อนหรือมีลูกหลานกู้ร่วมด้วยไหม หรือได้เป็นบำนาญแบบรายเดือน เพราะแต่ละโครงการก็มีราคาและรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเราค่ะ
ก่อนอื่นเราจะขอแบ่งรูปแบบที่พักอาศัยของผู้สูงอายุออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆคือ
- บ้านพักคนชรา : มีทั้งแบบภาครัฐและเอกชน เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีรายได้สม่ำเสมอต่อเดือน เช่น ผู้ที่ได้รับเงินบำนาญ , เงินปันผล รองรับได้ทั้งกลุ่ม Independent Living ในกรณีที่ไม่มีลูกหลาน , Assisted Living ไปจนถึงกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ (Nursing Home) ต้องการเจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชั่วโมง ส่วนใหญ่คิดค่าบริการรายเดือน เริ่มต้นที่ 1,500 บาท ไปจนถึงระดับ 80,000 บาท/เดือน (*ไม่รวมค่าบริการเพิ่มเติมอื่นๆ*)
- บ้านและคอนโดเพื่อนผู้สูงอายุ : เหมาะกับผู้สูงอายุที่ร่างกายยังแข็งแรง (Independent Living) สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เน้นการดูแลแบบใกล้ชิด ชอบความเป็นส่วนตัว และเป็นผู้ที่มีเงินเก็บเป็นก้อน โดยราคาจะเกาะกลุ่มอยู่ที่ 2 – 4 ล้านบาท รูปแบบการขายก็มีหลากหลาย ทั้งการขายขาดเหมือนการซื้อบ้านและคอนโดทั่วไป (Freehold) หรือขายสิทธิ์การเช่า (Leasehold) ซึ่งส่วนใหญ่โครงการจะให้เช่าระยะยาว 30 ปี หากผู้เช่าอายุยืน ในปีที่ 30 จะขายบ้าน – คอนโดคืนให้กับโครงการ หรือจะต่ออายุการเช่าก็ได้ โดยบางแห่งยังขายในรูปแบบสิทธิ์การอยู่อาศัยตลอดชีพ เพื่อให้เราไม่ต้องกังวลว่าหากอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกค่ะ
ซึ่งส่วนใหญ่สิทธิ์การอยู่อาศัยแบบตลอดชีพหรือเช่าระยะยาว 30 ปี จะมีราคาถูกกว่าการซื้อแบบขายขาด แต่ในแง่ของการลงทุน หรือการส่งต่อกรรมสิทธิ์ให้คนรุ่นหลัง การขายขาดก็จะคุ้มค่ามากกว่า ซึ่งบ้านพักคนชราที่เช่าแบบรายเดือน จะไม่ตอบโจทย์ในด้านนี้
แต่ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักคนชราหรือที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ สำหรับคนที่เตรียมตัวจะเกษียณก็ยังต้องสำรองเงินไว้เผื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ค่ายา ค่าหมอ ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดในชีวิตประจำวัน ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ได้รวมอยู่ในค่าเช่าหรือราคาที่อยู่อาศัยนะคะ
โดยวันนี้ Think of Living ก็มีรวมตัวอย่างโครงการทั้ง “บ้านพักคนชรา” และ “บ้าน – คอนโดผู้สูงอายุ” มีทั้งแบบเช่าและแบบซื้อมาให้ได้ชมกัน รวมถึงโครงการเปิดใหม่และโครงการที่ Active อยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยในวัยเกษียณกันอยู่นะคะ โดยจะมีโครงการไหนและเหมาะกับใครบ้าง ไปชมกันค่ะ 🙂
“บ้าน – คอนโดผู้สูงอายุ”
Naya Residence (นายา เรสซิเดนซ์)
- ที่ตั้งโครงการ : อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด High Rise ( 70 ยูนิต )
- รูปแบบห้อง : 1 Bedrom พื้นที่ใช้สอย 76 ตร.ม. / 2 Bedrooom พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 6.xx ล้านบาท* ( 1 Bedroom )
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่ารายเดือน 50,000 บาท / เช่าระยะยาว 15 ปี 6,000,000 บาท
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Naya Residence (นายา เรสซิเดนซ์) เป็นคอนโด High Rise ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดเป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและพยาบาลวิชาชีพดูแล 24 ชั่วโมง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องบริการสุขภาพ , ห้องนันทนาการ , ห้องออกกำลังกาย , สระว่ายน้ำความยาวกว่า 50 เมตร , สวนหย่อม และสนามเทนนิส เป็นต้น โดยทำเลโครงการจัดว่าเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้ทั้งทางด่วน , ท่าเรือ , รถไฟฟ้า และสนามบินดอนเมือง มีรูปแบบห้องไซส์ใหญ่ 2 Bedroom ได้พื้นที่ใช้สอยกว่า 120 ตร.ม.
Supalai Wellness Valley (ศุภาลัย เวลส์เนส วัลเลย์)
- ที่ตั้งโครงการ : อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
- ประเภทที่อยู่อาศัย : บ้านแถวชั้นเดียว ( 144 ยูนิต )
- รูปแบบห้อง : บ้านแถว พื้นที่ใช้สอย 55 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
- ราคาเริ่มต้น : 1.3 – 1.9 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง : 2,000 บาท / เดือน ( จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี )
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : เช่าระยะยาว 30 ปี / เช่าตลอดชีพ ( อายุ 50 ปีขึ้นไป )
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Supalai Wellness Valley (ศุภาลัย เวลส์เนส วัลเลย์) หรือ ศุภวัฒนาลัย เป็นบ้านแถวชั้นเดียวจำนวน 144 ยูนิตในสระบุรี ใกล้โค้งแม่น้ำป่าสัก ภายในโครงการได้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย อาทิ สระว่ายน้ำ , ห้องอาหาร , ห้องสันทนาการ , Spa & Suana , Minimart , สนามพัตต์กอล์ฟ , Organic Farm เป็นต้น โดยในบ้านจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ และมีพยาบาลวิชาชีพคอยดูแล 24 ชั่วโมง โดยมีทั้งสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี และแบบตลอดชีพ
Jin Wellbeing County (จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้)
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 7 ชั้น 5 อาคาร ( เฟส 1 : 494 )
- รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 43 – 44 ตร.ม. / 1 Bedroom Plus 63 – 66 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 3.79 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง : 60 บาท / ตร.ม. / เดือน
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Jin Wellbeing County (จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้) เป็นโครงการคอนโดแห่งแรกที่อยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลธนบุรี โดยเป็นโครงการ Mixed Use ที่มีทั้ง Condominium + Wellness Center + Hospital ( โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ) และ Community Mall รวมอยู่ด้วยกัน ภายในยังมีWellness Center และ Retreat Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก 55 เตียง รองรับการรักษาโรคทั่วไป และกิจกรรมกายภาพบำบัด โดยมีอายุรแพทย์อยู่ดูแลประจำตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไป , ผู้สูงอายุ , ผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะโรค และผู้ป่วยที่ต้องฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดที่ต้องการเน้นการกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง โดยภายในโครงการจะมีอาคารแบบ Pet Friendly สำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ได้ด้วยนะคะ
รีวิวโครงการ จาก Think of Living : Jin Wellbeing County คอนโดแนวคิดใหม่เพื่อผู้สูงอายุ ใกล้ ม.กรุงเทพ ย่านรังสิต-ปทุมธานี จาก ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป [Walk-in รีวิว]
Wellness World Chiva Ladprao 89 (เวลเนส เวิลด์ ชีวา ลาดพร้าว 89)
- ที่ตั้งโครงการ : ซอยลาดพร้าว 89 จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 6 ชั้น 1 อาคาร
- รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. (เตียงคู่) / Connecting Room 56 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 1.39 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง : 1,000 บาท / เดือน
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Wellness World Chiva Ladprao 89 (เวลเนส เวิลด์ ชีวา ลาดพร้าว 89) เป็นโครงการคอนโดเพื่อสุขภาพจาก Wellness World ที่มีสาขาในหลายๆจังหวัด มีให้เลือกทั้งคอนโดและบ้านพักอาศัย โดยโครงการนี้เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เหมาะกับคนยังอยากอยู่ในเมือง ลูกหลานเดินทางมาหาได้ง่าย จะออกไปเที่ยวข้างนอกก็สะดวก ที่ตั้งของคอนโดอยู่บนถนนลาดพร้าวใกล้ MRT สายสีเหลือง สถานีมหาดไทย รูปแบบห้องในโครงการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลพร้อมบริการด้านการแพทย์ 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการอาหารเพื่อสุขภาพ , ทำความสะอาดห้องพักและบริการซักรีด พร้อมมีกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพให้เลือกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกายภาพบำบัด , สระธาราบำบัด , สปาทางการแพทย์ , ฟิตเนส , โยคะ หรือจะเลือกกิจกรรมสันทนาการในชมรมต่างๆ หรือจัดทริปท่องเที่ยวกับเพื่อนๆวัยเดียวกันก็ได้นะคะ
Wellness World Ayutthaya (เวลเนส เวิลด์ อยุธยา)
- ที่ตั้งโครงการ : อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ประเภทที่อยู่อาศัย : บ้านพร้อมที่ดิน ( บ้านสั่งสร้าง )
- ขนาดที่ดิน : 83.5 – 179 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น : 21,200 บาท / ตร.วา
- ค่าส่วนกลาง : 1,500 บาท / เดือน
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Wellness World Ayutthaya ( เวลเนส เวิลด์ อยุธยา ) เป็นอีกหนึ่งโครงการในเครือ Wellness World เดิมมีขายทั้งคอนโดและบ้านพร้อมที่ดิน แต่ปัจจุบันคอนโดได้ Sold out ไปหมดแล้วนะคะ จะเหลือเป็นที่ดินเปล่าขนาด 83.5 – 179 ตร.วา รูปแบบการขายเป็นบ้านสั่งสร้าง มีแบบให้เลือกจากโครงการ โดยลูกบ้านสามารถไปใช้บริการ Facilities อื่นๆภายในโครงการ Wellness City ได้ ซึ่งก็จะมีทั้ง ร้านค้า , ร้านอาหาร , ห้องสัมนา และศูนย์การแพทย์ รองรับผู้ป่วยแบบ OPD
Villa Meesuk Residences (วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์เซส)
- ที่ตั้งโครงการ : อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise / วิลล่า
- รูปแบบห้อง : คอนโดมิเนียม พื้นที่ใช้สอย 48 ตร.ม. / วิลล่า 144 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 3.4 – 6.7 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง : 50 บาท / ตร.ม. / เดือน
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Villa Meesuk Residences (วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์เซส) ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกจังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศแบบธรรมชาติ ภายในโครงการมีทั้งคอนโดห้อง 1 Bedroom และวิลล่าขนาด 144 ตร.ม. ( 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ ) ให้เลือก ซึ่งรูปแบบการขายจะเป็นแบบขายขาด เวลาลูกหลานมาเยี่ยมก็สามารถมาพักด้วยได้ ทำเลยังอยู่ใกล้ห้างอย่าง Central Festival เชียงใหม่และตลาดอีกหลายแห่ง จากโครงการจะมี Shuttle Van คอยวิ่งรับ – ส่งด่วยนะคะ
Whale Senior Residence (เวล ซีเนียร์ เรสสิเดนซ์)
- ที่ตั้งโครงการ : อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร
- รูปแบบห้อง : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 32.50 – 40.30 ตร.ม. / 2 Bedroom 55 – 72.80 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 1.79 ล้านบาท*
- ค่าส่วนกลาง : n/a บาท / เดือน
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
Whale Senior Residence (เวล ซีเนียร์ เรสสิเดนซ์) เป็นคอนโดเพื่อผู้สูงอายุโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ตั้งของโครงการอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขับไปสนามบินได้ใช้เวลาแค่ 15 – 20 นาที รูปแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกเยอะถึง 6 แบบ ทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom จัดพื้นที่ใช้สอยให้รองรับผู้สูงอายุและผู้ที่ใช้รถเข็นได้สะดวก ภายในโครงการมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมง (Nurse on Call) มีรถรับ – ส่งไปโรงพยาบาลได้ในกรณีฉุกเฉิน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งบริการจัดหาอาหาร , ซักผ้า , ทำความสะอาดห้อง และ Facilities อาทิ ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ และบริการเสริมอื่นๆอีกหลากหลาย
The Aspen Tree (ดิ แอสเพน ทรี)
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนบางนา – ตราด กม.7 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโด High Rise 3 อาคาร สูง 13 ชั้น , 18 ชั้น , 22 ชั้น
( Active Living Condominiums ) คอนโด Low Rise 2 อาคาร สูง 5 ชั้น ( Sky Villa Residences ) - จำนวนยูนิต : 290 ยูนิต
- รูปแบบห้อง :
Active Living Condominiums 250 units
– 1 Bedroom ขนาด 83 ตร.ม.
– 1 Bedroom plus Den ขนาด 85 ตร.ม.
– 2 Bedrooms ขนาด 123 ตร.ม.
Sky Villa Residences 40 units
– 2 Bedrooms plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม.
– 2 Bedrooms plus Den & Private Garden ขนาด 213 – 250 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 33 ล้านบาท*
- เงื่อนไขการซื้อ – เช่า : ขายขาด / เช่าระยะยาว 30 ปี
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คลิกที่นี่
The Aspen Tree ( ดิ แอสเพน ทรี ) เป็นคอนโดระดับ LUXURY สำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเป็น 1 ในโครงการ Mixed-Use ภายใน The Forestias เป็น Mega Project ที่ภายในประกอบด้วย ผืนป่าขนาดใหญ่ 30 ไร่ พร้อมระบบนิเวศแบบยั่งยืน (Sustainable System) , โรงพยาบาล , ออฟฟิศ , ห้างสรรพสินค้า , คอมมูนิตี้มอลล์ , Service Apartment , โรงแรม , คอนโดมีเนียม และอาคาร Clubhouse พื้นที่กว่า 6,000 ตร.ม.
โดยแต่ละท่านที่เข้าพักอาศัยในโครงการ เมื่อแรกเข้าจะได้รับการวางแผน Life Planning Program ซึ่งเป็นโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดการวางแผนด้านอาหาร , การออกกำลังกาย และกิจกรรมที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งที่ลูกบ้านจะได้เพิ่มเติมแตกต่างจากโครงการอื่นๆก็คือ
- โครงการมอบประกันสุขภาพให้กับเจ้าของห้องพักอาศัย ดูแลระยะยาวด้วยความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี
- ความคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ในช่วงระหว่างการก่อสร้างโครงการฯ
- เพิ่มความคุ้มครองสูงสุดเป็น 40 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ เมื่อโครงการฯแล้วเสร็จ และโอนสิทธิการเช่าสำเร็จ
- ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางรายปีตลอดการอยู่อาศัย
- มีบริการอาหารเช้าฟรีตลอดชีพ
- หากเจ้าของห้องพักอาศัยไม่ประสงค์จะพักอาศัยต่อในโครงการแล้วและยังอยู่ในระยะที่กำหนด เจ้าของห้องพักอาศัยจะได้รับเงินคืน ( Refund ) ตามเงื่อนไขของสัญญา
รีวิวโครงการ จาก Think of Living : The Aspen Tree The Forestias คอนโดแนวคิดใหม่สำหรับคนวัย 50+ ออกแบบมาในสไตล์ Classic Contemporary จาก MQDC [Walk-in Review]
Silver Age Residence and Medical Center
เป็นโครงการ Mix Used ที่พักอาศัย (คอนโด + โรงแรม) และศูนย์สุขภาพเฉพาะทาง ที่เกิดจากความร่วมมือกันนระหว่าง Siamese Asset และ ศูนย์การแพทย์ศรีพัฒน์ เชียงใหม่ ที่ตั้งโครงการอยู่บนที่ดินริมถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ใกล้โรงพยาบาลศิริราชและ MRT สายสีน้ำเงิน ภายในโครงการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคาร A ศูนย์การแพทย์ Medical Center 45 เตียง ขออนุญาตเป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมฟื้นฟูผู้สูงอายุ” และอาคาร B เป็นคอนโดมิเนียมสูง 21 ชั้น จำนวน 349 ยูนิต แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 3 โซนชัดเจน ได้แก่ โซนสำหรับอยู่อาศัยรองรับกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป โซนโรงแรม บริหารโดยทีม Hospitality โซนห้องพักเช่าระยะยาว รองรับนักลงทุน
ถือเป็นโครงการ Mega Project ที่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว โดยโครงการเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับคอนโดคาดว่าราคาจะอยู่ที่ 4 – 5 ล้านบาท* จะเริ่มเปิดขาย Q2/69 เสร็จพร้อมเข้าอยู่ Q4/71 หากใครงการมีข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ Think of Living จะรีบมาอัพเดทให้ชมกันนะคะ
“บ้านพักคนชราที่รัฐฯสนับสนุน”
ในประเทศไทยมีบ้านพักคนชราที่รัฐฯสนับสนุนอยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งยังสามารถ “อยู่ฟรี” ได้ หากผ่านเงื่อนไขของหน่วยงาน หลักๆคือต้องถือสัญชาติไทย มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่มีโรคติดต่อ ติดสารเสพติดหรือติดสุรา หากฐานะยากจน ขาดคนดูแลก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ หรือจะอยู่แบบเสียค่าบริการรายเดือนก็ถือว่าราคาย่อมเยากว่าบ้านพักคนชราเอกชน โดยการดูแลก็จะมีบริการอาหาร 3 มื้อและเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมงเช่นกัน มีให้เลือก 12 แห่งทั่วประเทศ ดังนี้
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่)
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดลําปาง
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดขอนแก่น
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดนครพนม
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบุรีรัมย์ (บุรีรัมย์)
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ วาสนะเวศม์ (พระนครศรีอยุธยา)
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางละมุง (ชลบุรี)
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค (กรุงเทพฯ)
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ภูเก็ต
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดสงขลา
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านทักษิณ (ยะลา)
สำหรับ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่หลายๆคนรู้จักกันดี ก็คือ “ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค (กรุงเทพฯ)” ซึ่งเราขอยกตัวอย่างรายละเอียดเบื้องต้นมาให้ชมกันดังนี้ รวมถึงมีโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุโดยรัฐฯ ที่สามารถเช่าระยะยาว หรือขายขาด ได้เหมือนบ้านและคอนโดมาให้ชมกันด้วย
ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ บ้านบางแค (กรุงเทพฯ)
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
- ประเภทที่อยู่อาศัย (แบบเสียค่าบริการ) :
– หอพัก 40 ห้อง แบ่งเป็น ห้องเดี่ยว (ค่าบริการคนละ 1,500 บาทต่อเดือน) และห้องคู่ (ค่าบริการเดือนละ 2,000 บาท)
– บังกะโล 11 หลัง (ค่าบำรุงแรกเข้า 300,000 บาท) - เงื่อนไข : ตลอดชีวิต (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
- ประเภทผู้รับบริการ แบ่งออกดังนี้
– ประเภทสามัญ (อยู่ฟรี) : กลุ่มที่ผ่านกระบวนการคัดกรองที่เราได้บอกไปข้างต้น จะมีผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมอาหาร 3 มื้อ
– ประเภทเสียค่าบริการ : อายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันได้ ยังคงได้อาหาร 3 มื้อและได้ทำกิจกรรมสำหรับผู้สูงวัยร่วมกัน แต่นอกจากเสียค่าบริการที่พักอาศัยแล้ว ต้องจ่ายค่าน้ำประปา เดือนละ 100 บาทต่อคนและค่าไฟฟ้าคิดค่าใช้จ่ายตามจริงด้วย ซึ่งแบ่งที่พักเป็นแบบหอพัก (ห้องเดี่ยว – ห้องคู่) และแบบพิเศษ (บังกะโล) เป็นบ้านเดี่ยวที่สามารถพักอาศัยได้จนถึงแก่กรรม - ติดต่อสอบถาม : คลิกที่นี่
สวางคนิเวศ จาก สภากาชาดไทย
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนสุขุมวิท ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 168 ห้องและคอนโดมิเนียม Low Rise 6 ชั้น 8 อาคาร มีทั้งหมด 9 อาคาร จำนวน 300 ห้อง
– 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. รวม 168 ยูนิต ราคา 650,000 บาท
– 1 Bedroom ขนาด 40 ตร.ม. รวม 300 ยูนิต ราคา 800,000 – 1,000,000 บาท - ค่าใช้จ่าย
– ชำระค่าเข้าพักเพียงครั้งเดียว (หรือมัดจำ 5 หมื่นก่อน และภายใน 1 เดือนต้องหาเงินก้อนมาจ่ายส่วนที่เหลือ)
– ค่าส่วนกลาง 2,500 บาทต่อห้อง
– ค่าใช้จ่ายอื่นๆจ่ายเอง ได้แก่ ค่าไฟ หน่วยละ 5 บาท และค่าน้ำหน่วยละ 18 บาท) - เงื่อนไข : ตลอดชีวิต (อายุ 55 ปีขึ้นไป) และสามารถดูแลช่วยเหลือตัวเองได้
- ติดต่อสอบถาม : 02 – 703 – 9642
Senior Complex ศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
- ประเภทที่อยู่อาศัย : คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร ( เฟส 1 : 891 ยูนิต )
- รูปแบบห้องพัก : 1 Bedroom 31.71 – 49.66 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น : 1.82 – 3.05 ล้านบาท*
- ค่าใช้จ่าย
– ค่าส่วนกลาง : 2,000 บาท / เดือน (ชำระเป็นรายปี ล่วงหน้า 3 ปี )
– ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เดือนละ 2,000 บาท/คน/เดือน (ชำระเป็นรายปี ล่วงหน้า 1 ปี)
– ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ชำระตามจริง
– เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพันธมิตรโครงการ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน หรือ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ในลักษณะเงินฝากประจำ หรือ Escrow Account จำนวนเงิน 300,000 บาท โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้เป็นทุนสำรองในการดำรงชีพขณะอยู่ในโครงการเท่านั้น - เงื่อนไข : เช่าระยะยาว 30 ปี (อายุไม่ต่ำกว่า 58 ปี ณ วันที่จองสิทธิ์ หรือมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพักอาศัยจริง)
- ติดต่อสอบถาม : คลิกที่นี่
ส่วน “บ้านพักคนชราเอกชน” ก็ถือว่ามีความคล้ายคลึงกับบ้านพักคนชราของรัฐฯ เสียค่าบริการแบบอัตราเช่า (มีทั้งรายเดือนและรายปี) แต่จะมีให้เลือกหลากหลายมากกว่า รวมถึงสามารถรองรับผู้สูงอายุได้หลายกลุ่ม ไม่ว่าจะพึ่งพาตนเองได้หรือเป็นผู้ป่ายโรคเรื้อรัง ต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชั่วโมง ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 15,000 – 80,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับบริการที่ได้รับ บางแห่งเป็นบ้านพักคนชรา หรือศูนย์ฟื้นฟูที่ดูแลโดยโรงพยาบาล ซึ่งในประเทศไทยก็มีให้เลือกหลายแห่ง อาทิ
สรุปที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
สำหรับการเลือกที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐฯ หรือเอกชน จะมีปัจจัยหลักให้พิจารณา 2 ข้อ คือ 1) สุขภาพร่างกาย 2) สุขภาพการเงิน หากเป็นคุณลุง คุณป้าที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ดูแลตัวเองได้ ก็สามารถเลือกไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย หากมีงบประหยัดก็เลือกเป็นบ้านพักคนชราของรัฐฯที่ราคาย่อมเยาได้ หรือใครเป็นสายกิจกรรม ชอบความอิสระ มีงบประมาณขึ้นมาหน่อย หรือมีเงินก้อน ก็จะเหมาะกับบ้าน – คอนโดผู้สูงอายุมากกว่า ซึ่งรูปแบบก็มีทั้งเช่าระยะสั้นรายเดือน , ระยาวยาว 30 ปี , เช่าแบบตลอดชีพ (Leasehold) หรือการขายขาด (Freehoold) ที่เราสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานได้
สำหรับคนที่กำลังวางแผนเกษียณ เราก็มีตัวอย่างการคำนวณคร่าวๆ (*ใช้ข้อมูลปัจจุบัน ไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ* ) เพื่อสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในการอยู่อาศัยระยะเวลา 30 ปี ดังนี้
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโด A เพื่ออยู่อาศัย 30 ปี (สำหรับคนที่มีเงินก้อน)
- ค่าคอนโดเริ่มต้น 3,000,000 บาท จ่ายเมื่อวันที่เข้าอยู่ ( ห้องขนาด 30 ตร.ม. )
- ค่าส่วนกลางเดือนละ 60 บาท / ตร.ม.
- แพคเกจเสริมต่อเดือน ( ค่าบริการด้านสุขภาพ + ค่าอาหาร + ค่าแม่บ้าน เป็นต้น ) 30,000 บาท*
- รวมค่าใช้จ่ายในคอนโด A ระยะเวลา 30 ปี = 11,448,000 บาท
- ดังนั้นก่อนเกษียณต้องมีเงินเก็บขั้นต่ำประมาณ 12 ล้านบาท*
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเช่าบ้านพักคนชรา B เพื่ออยู่อาศัย 30 ปี (สำหรับคนที่มีรายได้สม่ำเสมอต่อเดือน)
- อัตรค่าเช่าต่อเดือน 2,000 บาท (สำหรับห้องคู่)
- ค่าบริการอื่นๆ อาทิ ค่าน้ำ , ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 500 บาท/เดือน
- รวมค่าใช้จ่ายในบ้านพักคนชรา B ระยะเวลา 30 ปี = 900,000 บาท
- ดังนั้นหลังเกษียณต้องมีรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ประมาณ 1 ล้านบาท*
ปัจจุบันแนวคิดเกี่ยวกับที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ด้วยสภาพสังคมจึงทำให้คนที่วางแผนจะโสดยาว คู่รักที่ไม่ต้องการมีลูก หรือแม้แต่คนที่ไม่อยากจะเป็นภาระของลูกหลาน ก็หันมาเลือกซื้อบ้านและคอนโดเพื่อชีวิตหลังเกษียณกันมากขึ้น ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และความปลอดภัยในโครงการที่สูงกว่าอยู่อาศัยในบ้านเดิม การเลือกซื้อบ้านและคอนโดผู้สูงอายุจึงถือเป็นการเลือกไลฟ์สไตล์ชีวิตบั้นปลายของตัวเองได้นั่นเอง
สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย แล้วติดตามเนื้อหาดีๆที่เราจะหยิบมาแชร์กันได้อีกที่ Think of Living นะคะ 🙂


