“ปัญหาการต่อเติม” คือ เรื่องน่ากลัวที่คนจำนวนมากเจอ เพราะคิดว่าการต่อเติมเป็นเรื่องเล็กน้อยเลยต่อเติมไปแบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัว สุดท้ายบ้านแตกร้าว น้ำรั่วซึม จนถึงขั้น ทรุดเอียงหนัก บางทีต้องเสียเงินซ่อมหลักแสนกันเลยนะคะ

วันนี้ Think of Living เลยชวน “ลุงช่าง” มาร่วมพูดคุย ให้ความรู้เรื่องงานก่อสร้างต่อเติมแบบเน้นๆ ให้กับทุกคนในบทความ “คู่มือกันพัง ที่ต้องฟัง ก่อนต่อเติม” ซึ่งเราจะขอความรู้จากลุงช่างทั้งการต่อเติมหลังคาโรงรถ, ห้องครัวหลังบ้าน รวมถึงการทำสวนรอบบ้านด้วยค่ะ ใน EP นี้เราจะเริ่มจากการต่อเติมหลังคาโรงรถก่อนนะคะ

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า หลังคาโรงรถประกอบด้วยโครงสร้าง 4 ส่วนหลัก ดังนี้

1. เสาเข็ม : ทำหน้าที่เป็นฐานรากรับน้ำหนักทั้งหมดของโครงสร้างอาคารและถ่ายเทน้ำหนักนั้นลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทรุดตัว ทำให้โครงสร้ามีความมั่นคงและปลอดภัย
2. เสาและคาน : ทำหน้าที่รับและถ่ายน้ำหนักจากส่วนต่างๆ ของอาคารลงสู่ฐานราก
3. พื้น : ทำหน้าที่รับน้ำหนักรถยนต์, คน แล้วถ่ายน้ำหนักนั้นลงสู่เสา,คาน หรือดิน (ในกรณีที่ไม่ได้ทำคานเชื่อมบริเวณพื้น)
4. หลังคา : ทำหน้าที่กันแดด, กันฝน และกันลม รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ที่จะเข้ามาบริเวณโรงจอดรถ

เมื่อทราบโครงสร้างหลักๆ ของโรงรถแล้ว ที่นี้มาดูกันว่าปัญหาที่มักเจอเป็นประจำจากการต่อเติมหลังคาโรงรถจะมาจากส่วนไหนกันบ้าง เราจะพาไปหาคำตอบกับ “ลุงช่าง” กันค่ะ

– ส่วนที่เราต่อเติมต้องแยกโครงสร้างจากบ้านเดิม “ถึงจะไม่ทำบ้านพัง” ถูกต้องไหม ?
– ต่อเติมโรงจอดรถแบบตั้งเสา 2 ต้น ได้หรือไม่ ?
– การต่อเติมหลังคาโรงจอดรถต้องลงเสาเข็มหรือไม่ ?
– พื้นโรงจอดรถควรลงเสาเข็ม ทำคานเชื่อม หรือเป็นพื้น On Ground ดี ?
– พื้นโรงจอดรถทรุดแต่เสาไม่ทรุด แก้ไขอย่างไร ?
– หลังคาแบบไหนที่จะเกิดปัญหาน้อยที่สุด ?


คำถาม : ส่วนที่เราต่อเติมต้องแยกโครงสร้างจากบ้านเดิม “ถึงจะไม่ทำบ้านพัง” ถูกต้องไหม ?

ลุงช่าง : ก่อนอื่นต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับการทรุดตัวของบ้านกันก่อน ว่าตัวบ้านจะมีการทรุดตัวตลอดเวลานะแต่จะมีการทรุดตัวลดลงตามเวลาที่ผ่านไป ในปีแรกดินที่รองรับน้ำหนักจะทรุดตัวเยอะหน่อย เมื่อเวลาผ่านไปการทรุดตัวจะลดลงเรื่อยๆ

ทีนี้สาเหตุหลักของส่วนต่อเติมที่ทรุด, มีน้ำรั่วซึม หรือลามไปถึงการแตกร้าวก็เกิดจากการทรุดตัวไม่เท่ากันของตัวบ้านหลักและส่วนต่อเติมที่เชื่อมต่อกัน แม้จะใช้เสาเข็มชนิดเดียวกัน แต่โรงรถที่ต่อเติมใหม่ (ซึ่งเปรียบเสมือนปีที่ 1) จะทรุดตัวมากกว่าบ้านเดิมที่สร้างเสร็จมาก่อนหน้าแล้ว การต่อเติมโรงรถจึงควรจะแยกโครงสร้างออกจากตัวบ้านเดิมโดยสิ้นเชิง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากการทรุดตัวไม่เท่ากันของส่วนต่อเติมและตัวบ้าน

ยกตัวอย่าง เช่น บ้านเก่าอาจทรุด 2 mm. แต่โรงรถใหม่อาจทรุด 2 cm. หากโครงสร้างส่วนต่อเติมใหม่พยายามจะทรุดลง แต่ถูกบ้านเก่าดึงไว้จากโครงสร้างที่เชื่อมล็อกเข้าหากัน ทำให้เกิดการงัด ซึ่งเป็นภาพที่พบบ่อยที่สุดในกรุงเทพฯ คือส่วนที่ทรุดไม่เท่ากันแล้วเอียง หรือหงายหลัง และฉีกออกจากตัวบ้าน

สรุปหลักการ : เมื่อรู้แล้วว่าตัวบ้านและส่วนต่อเติมจะทรุดไม่เท่ากัน อย่าให้เค้าเชื่อมกัน ให้ส่วนต่อเติมเข้ามา ชนเฉย ๆ แต่ไม่เชื่อม หรือออกแบบให้มีช่องว่าง (Gap) เพื่อให้โครงสร้างใหม่ขยับได้


คำถาม : ต่อเติมโรงจอดรถแบบตั้งเสา 2 ต้น ได้หรือไม่ ?

ลุงช่าง : โรงจอดรถที่ต่อเติมหน้าบ้านจัดสรร ช่างส่วนใหญ่นิยมใช้เสาสั้น 2 ต้นและวางหลังคาฝั่งหนึ่ง “ฝาก” ไว้กับบ้าน หากใช้เสาเข็มสั้นซึ่งทรุดตัวหนักกว่าบ้านที่ตั้งอยู่บนเสาเข็มยาวจะดึงบ้านให้ร้าวหรือแตกได้

หากส่วนต่อเติมใช้เสาเข็มยาวโครงสร้างโรงรถจะทรุดตัวน้อยกว่าเสาเข็มสั้น ก็จะลดอาการดึงบ้านให้แตกร้าวลงได้ แต่อย่างไรก็ตามการทรุดตัวของโครงสร้างบ้านเดิมกับส่วนต่อเติมใหม่ก็ไม่เท่ากันอยู่ดี

ขอบคุณภาพประกอบจาก SCG

แต่ก็ไม่ใช่ว่าการตั้งเสา 2 ต้นใช้ไม่ได้เลย เราสามารถ “ฝาก” หลังคาไว้กับบ้านได้หากน้ำหนักไม่เยอะ เช่น โครงหลังคาเหล็ก แต่ห้ามเชื่อมเหล็กให้ยึดแน่นกับบ้านให้เชื่อมต่อแบบสามารถหมุนได้ ทำได้โดยการใช้เหล็กมาชนแล้วเจาะรู ใช้ Bolt ตัวเดียวในการยึด ซึ่งทำให้เกิดการหมุนได้เหมือนบานพับ (ตามรายละเอียดในรูป) เพราะโครงสร้างในส่วนที่ต่อเติมมักจะมีการทรุดตัวไม่เท่ากับโครงสร้างหลักของบ้านอยู่แล้ว เมื่อส่วนต่อเติมทรุดลงมากกว่าจันทันก็สามารถขยับไปตามการทรุดตัวได้ ทำให้ไม่ดึงตัวบ้านหลักให้แตกร้าว

แต่หากการต่อเติมหลังคาเป็นดาดฟ้าคอนกรีตจะมีน้ำหนักมาก ต้องตั้งเสา 4 ต้นเหมือนการต่อเติมครัวหลังบ้านนะคะ


คำถาม : การต่อเติมหลังคาโรงจอดรถต้องลงเสาเข็มยาวเท่านั้นหรือไม่ ?

ลุงช่าง : ต้องดูจากหลายปัจจัย ได้แก่

–  แบบหลังคาที่ต่อเติม วัสดุที่เลือกใช้ (หนัก-เบา)

– สภาพของดินในบริเวณนั้น (ดินเหลว-ดินแข็ง) เช่น การขุดลงไปแล้วเจอน้ำใต้ดิน ซึ่งระดับจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล (หน้าแล้งน้ำต่ำ หน้าฝนน้ำสูง) ผลกระทบคือ ดินที่มีน้ำเยอะจะเหลว ทำให้รับน้ำหนักได้น้อยกว่าดินที่แข็ง ทางออกที่ดีที่สุดคือการใช้เข็มยาว เพราะหลักการของเข็มยาวคือการวางปลายเข็มบนชั้นดินที่แข็งแรง (เช่น ชั้นทรายที่ความลึกประมาณ 20 เมตรในกรุงเทพฯ) ซึ่งจะทำให้การมีน้ำอยู่ข้างบนไม่มีผลกระทบต่อการรับน้ำหนัก

แต่หากลงเข็มสั้นไปแล้ว การเสริมเข็มด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ใช้ท่อเหล็กและไฮโดรลิกกดนั้นทำได้ แต่ยุ่งยากและอาจไม่คุ้มค่า ควรออกแบบให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น

– ฟังก์ชันที่ต้องการใช้งาน ส่งผลต่อน้ำหนักที่กดลงดิน เช่น ใช้ต่อเติมหลังคาโรงรถ ถ้าดินแข็งก็ไม่จำเป็นต้องลงเสาเข็มยาวก็ได้ แต่หากใช้ต่อเติมเป็นห้องก็จำเป็นต้องลงเสาเข็มยาว เป็นต้น


คำถาม : พื้นโรงจอดรถควรลงเสาเข็ม ทำคานเชื่อม หรือเป็นพื้น On Ground ดี ?

พื้น on ground พื้นโรงรถจะทรุดตัวเท่าถนน ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ ระยะห่างจากพื้นโรงจอดรถกับเฉลียงหน้าบ้านจะมากขึ้นเรื่อยๆ วิธีแก้คือการเติมบันได หรือเพิ่มความสูงของพื้นคอนกรีตให้เดินเข้าบ้านได้ง่าย

ทั้งนี้ข้อจำกัดของพื้น On Ground คือหากต้องการกั้นห้องหรือทำสตูดิโอในอนาคต ก็ควรลงเสาเข็มตั้งแต่ต้นเผื่อไว้เลย


พื้นลงเสาเข็มพื้นโรงรถจะทรุดช้ากว่าถนน ปัญหาคือพื้นโรงรถลอย ความสูงไม่เท่ากับถนนหน้าบ้าน บริเวณที่จะแตกร้าวคือตรง Slpoe ที่เชื่อมเข้าบ้าน ก็ต้องมาแก้ในส่วนนี้แทน


คำถาม : พื้นโรงจอดรถทรุดแต่เสาไม่ทรุด แก้ไขอย่างไร ?

ลุงช่าง : หากพื้นทรุดตัวจนทำให้ฐานเสาปูดขึ้นมา วิธีแก้คือ การเทคอนกรีตทับพื้นเดิม เพื่อยกระดับพื้นขึ้นได้ตลอดเวลา และมีราคาถูก โดยไม่จำเป็นต้องวางเหล็ก เพราะพื้นออนกาวรับน้ำหนักโดยดินอยู่แล้ว


คำถาม : หลังคาแบบไหนที่จะเกิดปัญหาน้อยที่สุด ?

ขอบคุณภาพประกอบจาก SCG

ลุงช่าง : ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ระบบ Cantilever (การยื่นกันสาด) โดยไม่มีเสา เพราะน้ำหนักทั้งหมดจะอยู่กับบ้านเดิม ทำให้ไม่มีปัญหาการทรุดไม่เท่ากัน


เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ คู่มือกันพัง ที่ต้องฟัง ก่อนต่อเติม EP.1 หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจหลักการต่อเติมที่จะช่วยป้องกันปัญหาหลังต่อเติมโรงจอดรถได้ ใน EP. ต่อๆ ไป เราจะพาไปดูการวิธีต่อเติมห้องครัวหลังบ้าน รวมถึงการทำสวนรอบบ้าน รอชมกันต่อเลยค่ะ