รีวิววันนี้พามาชมคอนโดพร้อมอยู่ ริมแม่น้ำ ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท..! กับโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) คอนโด High – Mid Rise บนถนนราษฎร์บูรณะ ฝั่งนึงติดถนนใหญ่ อีกฝั่งติดริมแม่น้ำ ได้เฟอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* รูปแบบห้องมีให้เลือกตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 3 Bedroom เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องไซส์กระทัดรัด ได้ราคาย่อมเยามาพร้อมวิวแม่น้ำแบบโปร่งโล่ง ซึ่งโครงการนี้ก็ถือว่าเป็น Rare Item ในย่านเลยนะคะ โดย Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันค่ะ

  • คอนโดริมแม่น้ำ : ถือเป็นจุดเด่นของทำเลสำหรับคนที่มองหาคอนโดริมน้ำ จะต้องไม่พ้นโซนราษฎร์บูรณะ –  พระราม 3 แต่โครงการเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะได้ “คอนโดวิวแม่น้ำ” แต่ไม่ได้มีพื้นที่ติดแม่น้ำเลยเหมือนกับโครงการนี้ หมดปัญหาเรื่องบล็อควิว หรือต้องจองแต่คอนโดชั้นสูงๆ เพราะที่นี่เดินมาใช้ Facilities ที่ชั้น 1 ก็ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มๆแล้ว
  • เฟอร์ครบ พร้อมอยู่ : รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ฯ ครบพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* เมื่อเทียบเป็นราคาต่อตร.ม. ก็ถือว่าค่อนข้างย่อมเยา ในขณะที่คอนโด High Rise ในโซนส่วนใหญ่จะได้เป็น Fully Fitted ส่วนราคาก็จะเริ่มที่ 4 – 5 ล้านบาท
  • การออกแบบ : Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ ประกอบด้วยอาคารพักอาศัย 8 ตึก จำนวนห้องพัก 1,511 ยูนิต แต่การออกแบบช่วยกระจายความหนาแน่นได้ดี บางอาคารมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นแค่ 4 – 10 ห้อง โดยทุกอาคารมีพื้นที่ส่วนกลางให้เลือกใช้งานได้ ฟังก์ชันแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ Valley Zone , Sky Zone , Forest Zone และ River Zone

ข้อมูลโครงการ

รีวิว Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2568

 ชื่อโครงการ   Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
 ที่ดิน   12 – 1 – 13 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise – Mid Rise 8 อาคาร
– Building A : 31 ชั้น (211 ยูนิต)
– Building B : 35 ชั้น (220 ยูนิต)
– Building C : 35 ชั้น (217 ยูนิต)
– Building D : 28 ชั้น (215 ยูนิต)
– Building E : 18 ชั้น (185 ยูนิต)
– Building F : 19 ชั้น (193 ยูนิต)
– Building G : 31 ชั้น (166 ยูนิต)
– Building H : 33 ชั้น (104 ยูนิต)
 จำนวนยูนิต   1,511 ยูนิต , ร้านค้า 4 ยูนิต
 ที่จอดรถ   678 คัน คิดเป็น 44%
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • Studio 22 – 23.15 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 24.9 – 31.65 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 33.6 – 45.3 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 47 – 77.35 ตร.ม.
  • 3 Bedroom 105.75 ตร.ม.

 ราคาเริ่มต้น  1.99 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 9x,xxx บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  02 – 251 – 9955
 Line   @nobledev

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.675933, 100.516694
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) แสดงที่ตั้งที่อยู่ติดถนนราษฎร์บูรณะ ด้านหลังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็น Rare Item ในย่าน เพราะในโซนราษฎร์บูรณะ – พระราม 3 ปัจจุบันไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆให้เลือกมากนัก และโดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด “วิวแม่น้ำ” แต่ไม่ได้มี Facilities ติดริมน้ำเหมือนกับคอนโดนี้นะคะ ส่วนในเรื่องการเดินทางก็ค่อนข้างสะดวกสบาย นอกจากจะเป็นทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่แล้ว ยังใกล้สะพานเข้าเมืองถึง 3 แห่ง ทั้ง สะพานพระราม 9 , สะพานภูมิพล 1 – 2 และสะพานทศมราชันที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานเมื่อไม่นานนี้เอง จึงทำให้คนในโซนนี้เดินทางเข้า –  ออกเมืองได้สะดวกขึ้นมาก จะไปพระราม 3 – สาทร  – สีลม ก็ง่าย หรือใครจะใช้ทางด่วนโครงการก็อยู่ใกล้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ประมาณ 5 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปลงสาธุประดิษฐ์ , บางนาได้เลย หรือจะวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช ออกนอกเมืองไปฝั่งผ่านพระราม 9 – ดินแดง ไปลงแจ้งวัฒนะได้เลย

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะอาจจะไม่ใช่จุดเด่นของโครงการในปัจจุบัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นทำเลที่มีตัวเลือกอย่างรถไฟฟ้าให้ใช้บริการ อย่าง BTS สายสีเขียวสถานีกรุงธนบุรี ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน ทาง โครงการก็มีบริการรถวิ่งรับ – ส่งไปยังสถานีให้ด้วย และในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ที่วิ่งตัดผ่านถนนราษฎณร์บูรณะมาเปิดให้บริการ (คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2570) จากสถานีที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ห่างโครงการประมาณ 850 เมตร นั่งยาวไปเชื่อมต่อเตาปูนได้เลย

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ จากโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) สามารถไปใช้งานได้ทั้งฝั่งธนบุรีและพระนคร รอบๆโครงการมีห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket ให้ออกไปจับจ่ายใช้สอยได้หลายแห่ง ทั้ง Big C , Makro , Home Pro , Lotus’s ใกล้  The Mall Lifestore ท่าพระ , Asiatique  , Terminal 21 พระราม 3 , Central พระราม 2 – 3  และ ICONSIAM ในระยะประมาณ 10 กิโลเมตร รอบๆโครงการยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลและสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ อย่าง โรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry , โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ เป็นต้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ด้านหน้าติดถนนนใหญ่ ด้านหลังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา รอบข้างส่วนใหญ่ได้วิวโปร่งโล่ง จึงทำให้ได้วิวแม่น้ำเคลียร์ทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะชั้นสูง มีแค่ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ใกล้กับคอนโด Chapter One Modern Dutch ที่สูงประมาณ 27 – 31 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด จึงทำให้ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หลบหลีกการบังวิวได้ดีพอสมควร

  • ทิศเหนือ ติดกับ แม่น้ำเจ้าพระยา
  • ทิศใต้ ติดกับ โกดัง , ถนนราษฎร์บูรณะ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการบ้านริมน้ำ Noble Aqua , คอนโด สูง 27 – 31 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ โกดัง , อาคารแนวราบ

Image 1/3
วิวแม่น้ำจากโครงการ ฝั่งทิศตะวันตก

วิวแม่น้ำจากโครงการ ฝั่งทิศตะวันตก

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ไทวัสดุ สุขสวัสดิ์ ~ 3 กิโลเมตร
  • Big C ราษฎร์บูรณะ ~ 3.5 กิโลเมตร
  • Big C สุขสวัสดิ์ ~ 4 กิโลเมตร
  • Makro Food Service สุขสวัสดิ์ ~ 5 กิโลเมตร
  • Home Pro สุขสวัสดิ์ ~ 5.1 กิโลเมตร
  • Lotus’s บางปะกอก ~ 5.5 กิโลเมตร
  • Big C บางปะกอก ~ 5.8 กิโลเมตร
  • Big C Supercenter ดาวคะนอง ~ 7.5 กิโลเมตร
  • The Mall Lifestore ท่าพระ ~ 8.5 กิโลเมตร
  • Asiatique The Riverfront ~ 8.7 กิโลเมตร
  • Terminal 21 พระราม 3 ~ 9.6 กิโลเมตร
  • Central พระราม 3 ~ 9.8 กิโลเมตร
  • ICONSIAM ~ 10.5 กิโลเมตร
  • Central พระราม 2 ~ 12.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ~ 3.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์อินเตอร์ ~ 3.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลไอเอ็มเอช ธนบุรี ~ 4.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ~ 4.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ ~ 6.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระปิ่นเกล้า ~ 7.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ~ 7.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางประกอก 9 ~ 7.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ~ 8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี – 8.9 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนเซนต์แมรี่ ~ 3.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี ~ 3.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอำนวยวิทย์ ~ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม ~ 4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry ~ 9.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชันบางรัก ~ 11.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ~ 11.8 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ~ 6.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนดรุณสิกขาลัย ~ 7.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนโรงเรียนราชประชาสมาสัย ~ 7.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนพระแม่มารีสาธุประดิษฐ์ ~ 9.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ~ 10.2 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ ~ 12 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีราษฎร์บูรณะ ~ 850 เมตร
  • สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ~ 3.2 กิโลเมตร
  • ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ~ 4 กิโลเมตร
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขสวัสดิ์ ~ 5 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) เป็นคอนโดพร้อมอยู่ริมแม่น้ำ ที่ได้วิวแม่น้ำจริงแบบเต็มๆ ในงบเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาหยิบจับง่าย เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านบนทำเลเดียวกัน โดยเฉพาะปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีโครงการคอนโดริมแม่น้ำให้เลือกมากนัก และส่วนใหญ่ต้องมีงบไม่ต่ำกว่า 4 – 5 ล้านบาท ซึ่งก็จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ แต่หากใครอยากซื้อเพื่ออยู่อาศัย 1 – 2 คน อยากได้ห้องขนาดพอดีๆในราคาหยิบจับง่าย แถมยังได้วิวแม่น้ำ โครงการนี้มีห้องให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ Studio ขนาด 22 ตร.ม. ไปจนถึงห้องไซส์ใหญ่ 3 Bedroom ในราคาเริ่มต้น 1.99 – 15 ล้านบาท* มาพร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ทุกอาคาร มี Facilities ให้เลือกใช้งานกว่า 30 ฟังก์ชัน และบรรยากาศโดยรอบที่ร่มรื่น น่าอยู่มาก สมกับเป็นคอนโดริมแม่น้ำ

Highlights 

  • ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาทกับคอนโด “ริมแม่น้ำ” ไม่ใช่แค่ “วิวแม่น้ำ” ถือเป็น Rare Item ในย่าน
  • คอนโดยูนิตเยอะ 1,511 ยูนิต แบ่งเป็น High – Mid Rise 8 อาคาร ช่วยกระจายความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยได้ดี จึงทำให้มีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นเพียง 4 – 10 ห้องเท่านั้น
  • Pet Allowed มีอาคารที่อนุญาตให้สามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมวได้อย่างถูกกฎระเบียบ
  • มี Facilities ส่วนกลางหลากหลายทั้ง Sky Zone , River Zone , Forest Zone , Valley Zone เยอะกว่า 30 ฟังก์ชัน

ก่อนจะไปชมบรรยากาศจริงในโครงการ เราขออธิบายให้เห็นภาพรวมกันก่อน Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) เป็นกลุ่มคอนโด High Rise – Mid Rise ทั้งหมด 8 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัย 1,511 ยูนิต มีร้านค้า 4 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ โดยจะแบ่งเป็นอาคาร A , B , C , D , E , F ,G , H มีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 100 – 200 ห้องต่ออาคาร ซึ่งถือเป็นการช่วยกระจายความหนาแน่นในโครงการขนาดใหญ่ได้ดี ซึ่งแต่ละอาคารก็จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ส่วนตัวเรามองว่าเป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มีความหลากหลายได้ดี อาทิ อาคารที่มี Sky Facilities , อาคารเลี้ยงสัตว์ได้ และอาคารที่ได้วิวแม่น้ำ

โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีกระจายให้ใช้งานได้ทุกอาคาร ฟังก์ชันหลักคือ Lobby , Mail Room , Co – Working Space เรียกว่าเป็น Valley Zone ของโครงการ ตรงกลางเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่มาพร้อม Pet Park รวมเนื้อที่ได้กว่า 3 ไร่ ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นในโครงการได้ดี ส่วน Sky Zone จะอยู่ที่ชั้น 35 ของอาคาร B และ C ได้วิวแม่น้ำและเมืองมุมสูงแบบเต็มๆ สุดท้ายคือ River Zone เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor ที่อยู่ติดริมแม่น้ำ ลูกบ้านจากอาคารอื่นๆ เดินมาใช้งานได้ง่าย จะใช้ทางเดิน Jogging Track ผ่านสวน หรือทางเชื่อมบนชั้น 2 ที่เดินได้ตั้งแต่อาคารจอดรถมาจนถึงอาคาร H ได้เลย รวมระยะทางประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ในโครงการยังมีรถกอล์ฟคอยวิ่งให้บริการ สำหรับใครที่ไม่อยากเดินให้เหนื่อย

โครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ถือเป็นคอนโดแรกจากแบรนด์ Nue ที่เป็นคอนโดริมน้ำ แนวคิดการออกแบบมาจากคำว่า “Urbanrest” คือ Urban (Central Business District) + Forest (Bangkok’s Lung) เพื่อสร้างคอนโดที่ได้บรรยากาศรีสอร์ท ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนทุกวัน บวกกับทำเลที่อยู่ริมน้ำ จึงกลายเป็น Nue Riverest รูปทรงของอาคารเป็น Organic Form ได้แรงบันดาลใจมาจากภูเขา , ผืนป่า และสายน้ำ ได้เป็นลักษณะอาคารที่มีการลดหลั่นจำนวนชั้น นอกจากจะได้รูปทรงที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ยังช่วยเปิดมุมมองจากห้องพักอาศัย ทำให้สามารถชมวิวริมน้ำได้แบบเต็มที่

Ground Floor

โครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงยาว ระยะจากถนนราษฎร์บูรณะถึงริมน้ำประมาณ 440 เมตร ส่วนแรกที่ติดกับถนนจะเป็นซุ้มประตูและร้านค้า 4 ยูนิต ลูกบ้านสามารถแวะช้อปปิ้งก่อนเข้าอาคารพักอาศัยได้สะดวก ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับอาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น ซึ่งเป็นที่จอดรถหลักของโครงการ จากตรงนี้จะมีรถกอล์ฟคอยรับส่งลูกบ้านตามอาคารต่างๆ โดยอาคาร A – E ยังมีช่องจอดรถที่ชั้น 1 ได้อีกจำนวนนึง รวมแล้วได้ที่จอดรถประมาณ 678 คัน คิดเป็น 44% ค่ะ ทางสัญจรรถเป็นแบบ Two – Way กลับรถเพื่อวนออก ไม่สามารถวิ่งรอบโครงการได้ ซึ่งก็ถือว่าช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวได้ดี

การจัดผังของโครงการ จะวางอาคารพักอาศัยทั้ง 8 ตึกล้อมคอร์ทตรงกลาง ซึ่งเป็น Forest Zone ลูกบ้านเดินมาใช้งานได้สะดวก จากห้องพักอาศัยยังสามารถมองเห็นวิวสวนได้ โดยตลอดทั้งโครงการจะมีทางเดินและ Jogging Track เดินเชื่อมได้ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าด้านหน้าไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางริมน้ำหรือ River Zone ซึ่งจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย ในส่วนห้องพักอาศัย หน้าห้องส่วนใหญ่หันขนานไปกับทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ได้วิวแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง โดยด้านในนอาคารจะจัดเป็น Valley Zone มี Lobby แยกใช้งานทุกตึก ลิฟต์โดยสารให้มาอาคารละ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนรวมทั้งโครงการ 94 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมาก ใช้งานได้

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ติดกับถนนราษฎร์บูรณะ เข้ามาจะเจอกับอาคาร 2 ชั้น ซึ่งปัจจุบันยังเป็น Sales Gallery ของโครงการ แต่อนาคตจะปรับเปลี่ยนเป็นโซนร้านค้าที่มี 4 ยูนิตนั่นเอง สำหรับคนภายนอกที่ขับรถมาก็สามารถเลี้ยวมาจอดซื้อของได้ มีที่จอดรถรองรับไว้อยู่ด้านข้าง แต่จะไม่สามารถเข้าไปในโครงการได้นะคะ

Image 1/5
ประตูทางเข้า - ออกโครงการกั้นด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนนมัติ

ประตูทางเข้า - ออกโครงการกั้นด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนนมัติ

จากร้านค้าจะมีประตูทางเข้า – ออกอีกชั้น เป็นไม้กั้นกระดกอัตโนมัติควบคุมด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียน สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ในการเข้า – ออก เมื่อเข้ามาจะเจอกับถนน 2 เลน ค่อนข้างกว้าง รถสามารถขับสวนเข้า – ออกกันได้ โดยถนจะเป็นทางตรงบังคับไปยังที่จอดรถของโครงการ

จากอาคารจอดรถหากเดินเข้ามาในโครงการจะเจอกับ Forest Zone เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ได้เนื้อที่รวมกว่า 3 ไร่ อยู่ตรงกลางโครงการ ล้อมรอบด้วยอาคารพักอาศัย จัดเป็นวิวสวนช่วยเพิ่มความร่มรื่น ผ่อนคลายได้ดี โดยฟังก์ชันจัดมาให้เป็นพื้นที่พักผ่อน มี Pavilloin เล็กๆที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “รังไหม” ใช้เป็นศาลานั่งพัก หรือสนามเด็กเล่นของเด็กได้ ติดกันยังเป็น Pet Park อยู่ด้านหน้าอาคาร F ซึ่งเป็นอาคารเลี้ยงสัตว์ได้ ลูกบ้านสี่ขาลงมาใช้งานได้สะดวก

Image 1/12
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง Forest Zone ภายในโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ)

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง Forest Zone ภายในโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ)

สำหรับคนที่ชอบเดินยืดเส้นยืดสาย ไม่อยากใช้บริการรรถกอล์ฟก็สามารถใช้ Jogging Track ซึ่งเป็นทางเดินเชื่อมไปยังอาคารต่างๆได้ รอบๆเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ เดินได้สบาย หรือหากวันไหนฟ้าฝนไม่ดี จากอาคารจอดรถก็มี Sky Path ที่ชั้น 2 เดินเชื่อมต่อทุกอาคารได้เช่นกัน

Building A

เข้ามาชมภายในอาคารพักอาศัย เริ่มที่ Building A ที่อยู่ด้านหน้าใกล้กับอาคารจอดรถที่สุด โดย Building A เป็นอาคาร High Rise สูง 31 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัย 211 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางมีให้ใช้งานได้ที่ชั้น 1 โดยส่วน Lobby ออกแบบมาในแนวคิด Star Light ซึ่งแต่ละตึกก็จะมีธีมแตกต่างกันไป โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแสงธรรมชาติในแต่ละช่วงเวลา

พื้นที่ส่วนกลางทุกอาคารได้ฝ้าเพดานสูง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง โดย Lobby อาคาร A ถือว่าได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ ฟังก์ชันจะประกอบด้วย Lobby , Mail Room , Laundry , Delivery Station , Co – Working Space , Multi-Function Room ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานที่ได้ในทุกอาคาร เรียกว่า “Valley Zone” แต่ในอาคาร A จะมีห้องนิติบุคคลและ Meeting Room อยู่ด้วย ลูกบ้านสามารถมาใช้นั่งรวมกลุ่มกันทำงานแบบเป็นส่วนตัวได้

Image 1/8
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building A

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building A

การตกแต่งมาในโทนสีขาว – น้ำเงินเข้ากับธีม Star Light เมื่อเข้ามาในอาคารจะเจอกับ Lobby ส่วนลิฟต์โดยสารจะอยู่ด้านข้างติดกับทางเข้าเลย หากจะขึ้นอาคารไปยังส่วนพักอาศัยต้องใช้ Keycard แตะ ทั้งที่ประตูด้านหน้า และภายในลิฟต์ยังได้มาเป็นระบบล็อกชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเข้า – ออกได้ดี

Building A : มีจำนวนห้องพักอาศัย 211 ยูนิต แต่มีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น จึงถือว่าเป็นอาคารที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง รูปแบบห้องมีให้เลือก 3 แบบคือ ห้องขนาดเริ่มต้น Studio 22 ตร.ม. (กรอบสีแดง) มีให้เลือก 2 ยูนิต หน้าห้องหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห้อง 1 Bedroom Plus (กรอบสีน้ำตาล) ได้ทิศเดียวกัน มีเพียงห้องเดียวอยู่ตรงตำแหน่งมุมอาคาร ซึ่งจะเป็นฝั่งที่อยู่ตรงข้ามอาคารจอดรถ

หากใครอยากได้ความโปร่งโล่ง เราแนะนำให้ดูตำแหน่งชั้น 8 ขึ้นไปค่ะ ส่วนห้องที่มีให้เลือกเยอะหน่อยจะเป็นห้อง 1 Bedroom ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้ข้อดีคือวิวที่โปร่งโล่งกว่าอีกฝั่ง แต่ก็อาจโดนแดดในช่วงกลางวันบ้างค่ะ โดยเรามองว่าคนที่เลือกอาคารนี้ จะเหมาะกับคนที่เน้นการเดินทางเข้า – ออกสะดวก อยากได้ห้องราคาย่อมเยา และไม่ซีเรียสเรื่องวิวมากนัก

Building B & C

Building B – C เป็นตึกที่สูงที่สุดและมีจำนวนห้องพักอาศัยเยอะสุดในโครงการ (220 ยูนิต) โดยจุดเด่นจะอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 35 หรือ Sky Zone นอกจากจะสามารถ Take View มุมสูงได้แบบ Panorama แล้ว ระหว่างตึกยังมีทางเดินเชื่อม เดินใช้งานข้ามอาคารได้ ชั้น 1 เชื่อมต่อกับ Forest Zone ชั้นพักอาศัยบนๆได้วิวสวน

Building B

Image 1/9
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building B

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building B

ชั้น 1 อาคาร B ออกแบบมาในธีม “Twilight” เน้นใช้โทนสีแดงเข้ากับช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และหลังพระอาทิตย์ตก ฟังก์ชันจะประกอบด้วย Lobby , Mail Room , Laundry , Delivery Station , Co – Working Space และ Multi-Function Room

ชั้น 35 มาพร้อมฟังก์ชัน Private Onsen และ Sky Spa ที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานเพื่อนนวด ผ่อนคลายได้ โดยจุดเด่นจะอยู่ที่วิวมุมสูง ที่ได้มาแบบเปิดโล่ง เหมาะกับเป็นชั้น Sky Zone โดย Facilities ของชั้นนี้หากลูกบ้านจะขึ้นมาใช้งาน จำเป็นจะต้อง Booking ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและเป็นส่วนตัวนะคะ

Image 1/5
พื้นที่ส่วนกลางโซน Private Onsen บนชั้น 35 อาคาร B

พื้นที่ส่วนกลางโซน Private Onsen บนชั้น 35 อาคาร B

Private Onsen แยกโซนชาย – หญิงมาให้ชัดเจน ด้านในมีห้องน้ำ , ห้องอาบน้ำและ Locker ไว้ใช้เก็บของใช้ส่วนตัวหรือเสื้อผ้าได้ โดยในห้องฝั่งผู้หญิงจะมีห้อง Steam ให้ใช้งานได้ ส่วนฝั่งผู้ชายได้เป็นห้อง Sauna ไว้ใช้งานหลังขึ้นมาจาก Onsen ได้ ช่วยขับสารพิษและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดี

บรรยากาศภายใน Private Onsen มีมุมให้ล้างตัวก่อนลงบ่อ โดยพื้นที่บ่อ Onsen ค่อนข้างกว้าง จะมาแช่คนเดียวหรือชวนเพื่อนมานนั่งแช่น้ำร้อนพร้อมกับชมวิวเมืองแบบโปร่งโล่ง ก็ได้บรรยากาศผ่อนนคลายไปอีกแบบนะคะ

Image 1/2
พื้นที่ส่วนกลางโซน Sky Spa บนชั้น 35 อาคาร B

พื้นที่ส่วนกลางโซน Sky Spa บนชั้น 35 อาคาร B

อีกฝั่งเป็น Sky Spa มีให้เลือกใช้งานได้ 2 ห้อง มีห้องด้านในที่ดูมิดชิดเป็นส่วนตัว และห้องที่ได้วิวแม่น้ำแบบ 180 องศา ด้านในมีห้องน้ำและส่วนอาบน้ำแยกใช้งานในตัว ลูกบ้านสามารถเรียก Therapis มาให้บริการนวดผ่อนคลายแบบส่วนตัวที่คอนโดได้เลย

จาก Building B มีทางเชื่อมให้ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้งาน Facilities ที่ Building C ได้ด้วย โดยฟังก์ชันของทั้ง 2 อาคารนี้เราว่าเหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางแบบ Indoor จะมาใช้งานคนเดียวเพื่อพักผ่อน หรือพาเพื่อนๆมานั่งเล่น สังสรรค์ด้วยกันก็ได้

Building C

Image 1/9
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building C

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building C

พามาชม Lobby ของอาคาร C กันก่อน การตกแต่งใช้โทนสีขาว – เขียว เข้ากับธีม Warm Light ฟังก์ชันมีให้เลือกใช้งานได้ครบเหมือนในอาคาร B โดยส่วนตัวเรามองว่า 2 อาคารนี้แทบจะเรียกว่าเป็นอาคารฝาแฝดกันเลยก็ได้ แตกต่างกันที่ Building C จะมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าเล็กน้อย (217 ยูนิต)

ขึ้นมาชั้น 35 จากทางเชื่อมเดินเข้ามาจะเจอ Sky Lounge All – day Bar ที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้เป็นมุมดริปกาแฟหรือชงเครื่องดื่มไว้สังสรรค์ในกลุ่มปาร์ตี้เล็กๆได้ โดยที่เคาน์เตอร์จะมีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้ สำหรับบาริสต้ามือใหม่จะมาลองใช้ฝึกฝีมือก็ได้นะคะ

ติดกันเป็นห้อง Sky Theater ด้านหน้ามีตู้ Vending Machine ให้ลูกบ้านแวะกดน้ำ กดขนม ก่อนเข้าไปดูหนัง ดูซีรี่ส์ด้านในได้ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงหนังขนาดย่อมๆเลย

ด้านในได้พื้นที่มากว้างขวาง โซนที่นั่งเป็นชุดโซฟาลดหลั่นกันเป็นเสต็ป จะนั่งดูนอนดูก็ได้ ไม่บังกัน ด้านหลังจอยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนกลางคืนน่าจะได้วิวไฟสวยๆไปอีกแบบ เหมาะกับมาใช้งานกับกลุ่มเพื่อนๆหรือแฟน ก็ดูโรแมนติกดีนะคะ

เดินถัดมาจะเป็น Sky Co – Kitchen ที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาทำอาหาร หรือนัดกลุ่มเพื่อนๆ ขึ้นมาปาร์ตี้ ทานข้าวด้วยกันได้พร้อมชมวิวแม่น้ำได้บรรยากาศสบายๆในวันพักผ่อน หรือใครเป็น Youtuber สายอาหารก็ขึ้นมาใช้งานเป็นมุมถ่ายงาน Content ได้เลย เพราะมีชุดครัวสวยๆให้ใช้งานได้ครบ

ด้านข้างได้เป็นผนังกระจก Full Height ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มตา มาพร้อมฝ้าเพดานสูง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง ด้านในมีเคาน์เตอร์ครัว Island ที่ติดตั้งอุปกรณ์มาให้ค่อนข้างครบ ทั้งเตา , เครื่องดูดควัน , เตาอบ และตู้เย็น ใช้ทำอาหารแบบจริงจังได้เลย โดยห้องนี้จะได้เป็นโต๊ะทานข้าวยาว รองรับได้ 6 – 8 ที่นั่ง

อีกห้องได้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในคาเฟ่ โดยทั้ง 2 ห้องจะมีประตูกระจกกั้นแยกมาให้ ถ้ามีลูกบ้านคนอื่นๆใช้งาน ก็สามารถกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ หรือถ้าจองพร้อมกัน 2 ห้อง ก็เปิดเชื่อมเป็นโซนปาร์ตี้แบบครึ่งชั้นได้เลย

Building B – C ได้ Typical Plan เหมือนกันตั้งแต่ชั้น 3 – 33 มีห้องพักอาศัยเพียง 7 ห้องต่อชั้น ห้อง Studio จะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้ราคาหยิบจับง่าย มาพร้อมวิวสวน ส่วนห้อง 1 Bedrom และ 1 Bedroom Plus จะอย่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้ข้อดีคือวิวแม่น้ำที่โปร่งโล่งมากกว่า

Building D

Building D เป็นอาคารที่อยู่ตรงกลางโครงการ มีการออกแบบให้ความสูงของชั้นลดหลั่นกันไป เพื่อไม่ให้บังวิวอาคารโดยรอบ โดยจุดเด่นของอาคารนี้ก็คือ เป็นอาคารที่มีรูปแบบห้อง 1 Bedroom Plus ให้เลือกเยอะ เมื่อเทียบกับอาคารอื่นๆที่จะมีให้เลือกแค่ 1 – 2 ยูนิต ซึ่งแบบห้องนี้ถือเป็น Highlight ของโครงการ เพราะได้มาแบบหน้ากว้าง สามารถ Take View ไปทางฝั่งแม่น้ำได้แบบไม่มีอะไรมาบดบัง

ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูล Lobby ของอาคาร D ยังอยู่ในระหว่างการตกแต่ง จึงทำให้ยังไม่สามารถนำภาพจริงมาให้ชมกันได้ แต่ Mood&Tone และฟังก์ชันจะคล้ายกับ Building E ที่มาในธีม Day light เหมือนกัน ส่วนห้องพักอาศัย Building D เป็นตึก High Rise สูง 28 ชั้น มีจำนวนห้องพักอาศัย 215 ยูนิต และมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 10 ห้อง ก็ถือว่ายังค่อนข้างน้อย ไม่พลุกพล่าน โดยแปลนห้องจะได้แบบ Typical ตั้งแต่ชั้น 4 – 19 รูปแบบห้องมีให้เลือกแค่ 2 แบบคือ ห้อง Studio ที่ได้วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ และห้อง 1 Bedroom Plus ได้วิวแม่น้ำฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ห้องพักอาศัยส่วนนึงของอาคาร D ยังสามารถได้วิวสวนที่เป็น Stack Garden ของอาคาร F ได้ด้วย

Building E

Building E เป็นอาคาร Mid Rise สูง 18 ชั้น มีจำนวนห้องพักอาศัย 185 ยูนิต โดยรวมแล้วจะคล้ายกับอาคาร D เพียงแต่มียูนิตต่อชั้นเยอะกว่า ด้วยความสูงชั้นที่น้อยลง แต่รูปแบบห้องยังเน้นไปที่ 1 Bedroom Plus ที่สามารถ Take View แม่น้ำทางฝั่งพระราม 9 ได้แบบเปิดโล่ง โดยตำแหน่งของอาคารจะอยู่ค่อนมาทางฝั่งริมน้ำ ทำให้สามารถเดินมาใช้งานสระและฟิตเนสที่อยู่ในอาคาร H ได้ง่าย

Image 1/7
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building E

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building E

ลักษณะแปลนของ Building E จะได้แปลนอาคารเป็นแนวยาว Typical Plan จะเป็นชั้น 3 – 7 ส่วนชั้นจะค่อยๆลดจำนวนห้องลงตามรูปทรงของอาคารที่เป็น Stack Garden โดยรูปแบบห้องจะมีให้เลือก 2 แบบคือ Studio และ 1 Bedroom Plus ซึ่งในอาคารนี้จะมีห้องไซส์พิเศษ (กรอบสีแดง) ที่หันหน้ารับวิวแม่น้ำได้ด้วย ส่วนห้อง Studio จะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นห้องที่มีราคาหยิบจับง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องวิวมากนัก เพราะหน้าห้องฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร F นั่นเอง

Building F

Building F เป็นอาคารเดียวในโครงการที่เป็น Pet Allowed คือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่จะไม่ได้มี Facilities ไว้รองรับครบครันอย่างโครงการที่เป็น Pet Friendly แต่ด้านหน้าอาคารก็ยังมีโซน Pet Park ให้เจ้าของห้องสี่ขาได้ลงมาวิ่งเล่นสูดอากาศ ยืดเส้นยืดสายได้ โดยอาคารนี้เป็นคอนโด Mid Rise สูง 19 ชั้น มีห้องพักอาศัย 193 ยูนิต ส่วน Lobby ชั้น 1 เรามองว่าให้มาค่อนข้างใหญ่ แถมมีทางเดินแบบ Semi Outdor เชื่อมต่อไปสวนได้

Image 1/4
ทางเข้า - ออกและพื้นที่โดยรอบ Building F

ทางเข้า - ออกและพื้นที่โดยรอบ Building F

Image 1/12
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building F

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building F

Lobby อาคาร F ออกแบบมาในธีม Warm Light การจัดฟังก์ชันเน้นพื้นที่ Common Area ขนนาดใหญ่ อย่าง Co – Working Space โดยผนัง 2 ฝั่งของอาคารได้เป็นกระจก Full Height ได้ความโปร่งโล่งมากกว่า Lobby อาคารอื่นๆ

รูปแบบห้องพักอาศัยของ Building F จะได้ห้องไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แบบห้องมีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งก็ค่อนข้างเหมาะกับห้องของคนเลี้ยงสัตว์ที่ต้องการพื้นที่ค่อนข้างเยอะ โดยจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุดของอาคารนี้จะอยู่ที่ชั้น 3 มี 27 ห้อง ข้อดีของอาคารนี้ก็คือทั้ง 2 ฝั่งของอาคารได้วิวโปร่งโล่ง

Building G & H

Building G และ H เป็นอาคารสูงที่จัดอยู่ใน River Zone ได้วิวแม่น้ำเคีลยร์ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งถือเป็น Rare Item ในย่าน จากอาคารเดินไปใช้งาน Facilities ริมแม่น้ำได้ง่าย แต่ตำแหน่งของอาคารจะอยู่ค่อนข้างไกลจากอาคารจอดรถ ประมาณ 250 เมตร หากใครไม่อยากเดิน ก็สามารถใช้บริการรถกอล์ฟของโครงการได้

Building G

Image 1/14
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building G

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building G

Lobby ของอาคาร G และ H ออกแบบมาในธีม Morning Light ได้โทนสีที่ดูสว่าง สบายตา โดยฟังก์ชันของอาคาร G จะคล้ายกับอาคารอื่นๆ แต่มีโซน Kids Club เพิ่มเข้ามา ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆมาใช้งานได้

Building H

Image 1/14
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building H

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 1 ภายใน Building H

Building H ชั้น 1 เป็น River Lounge ได้วิวสระและแม่น้ำ จุดเด่นจะอยู่ที่บันไดเวียนตรงกลางสามารถเดินขึ้นไปใช้งานฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 2 ได้ ด้านหลังเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ได้มาค่อนข้างใหญ่ มี Locker เอาไว้ใช้เก็บของได้ ทั้งคนที่มาใช้งานฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำด้านนอก

Image 1/5
บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 2 ภายใน Building H

บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 2 ภายใน Building H

River Fitness Center อยู่บนชั้น 2 ได้วิวแม่น้ำแบบ Panorama ภายในมีอุปกรณ์ติดตั้งมาให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ทั้ง Cardio และ Weight Training บรรยากาศรอบๆได้ความโปร่งโล่ง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางรองรับลูกบ้านอาคารต่างๆได้สบายๆ

รูปแบบห้องพักอาศัยใน Building G  และ H จะเน้นเป็นห้องไซส์ใหญ่ เริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 27.25 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom 105.75 ตร.ม. จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นมีแค่ 2 – 6 ยูนิต ได้วิวแม่น้ำโปร่งโล่งรอบด้าน

River Facilities ก็ถือเป็น Highlight ของโครงการ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ได้มาถึง 3 สระ ได้วิวเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ดูเปิดโล่ง ความยาวโดยรวมของสระว่ายน้ำได้มากว่า 30 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย

Image 1/10
พื้นที่ส่วนกลางโซน Outdoor : River Zone

พื้นที่ส่วนกลางโซน Outdoor : River Zone

รอบๆยังมีทางเดินให้ชมวิวสวนและบรรยากาศริมน้ำ แถมมีศาลาและมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนได้ โดยสระว่ายน้ำทั้ง 3 สระประกอบด้วย Kids Pool , Leisure Pool และ Lap Pool

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1 : Valley Zone

  • Lobby (ทุกอาคาร)
  • Mail Room (ทุกอาคาร)
  • Laundry (ทุกอาคาร)
  • Delivery Station (ทุกอาคาร)
  • Co-Working Space
  • Multi-Function Room
  • Meeting Room
  • Kids Club (ตึก G)

ชั้น 2 ทุกอาคาร

  • Connecting Sky Path

ชั้น 35 อาคาร B , C : Sky Zone Facility

  • Sky Lounge All – day Bar
  • Sky Theatre
  • Sky Co – Kitchen
  • Party Room
  • Sky Spa
  • Private Onsen
  • Stream / Sauna
  • Observation Bridge

ชั้น 1 , 2 อาคาร H : River Zone Facility

  • River Lounge
  • River Deck
  • River Fitness Center
  • Kids Pool ระบบเกลือ ขนาด 6 x 6 เมตร ลึก 0.5 เมตร
  • Leisure Pool ระบบเกลือ ขนาด 10 x 27 เมตร
  • Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร

ชั้น 1 รอบอาคาร : Forest Zone Facilities

  • Passive Park
  • Forest Cocoon
  • Playscape
  • Pet Park
  • Sunken Lawn
  • Jogging Track
  • Stream Pavilion
  • Services

อื่นๆ

  • ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • Shuttle Van to Nearest BTS
  • Shuttle Cart Service
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 94 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 678 คันคิดเป็น 44%
  • พื้นที่สีเขียวภายในโครงการประมาณ 3 ไร่
  • การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ระยะไกล / จดจำป้ายทะเบียน / สติกเกอร์
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card

แบบห้อง

รูปแบบห้องพักอาศัยในโครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ห้อง Studio ขนาดเริ่มต้น 22 ตร.ม. ไปจนถึงห้อง 3 Bedroom ขนาด 105.75 ตร.ม. ซึ่งในปัจจุบันก็ได้ Sold out ไปแล้วนะคะ โดยจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือเป็นคอนโดราคาหยิบจับง่าย มีงบ 2 – 3 ล้านบาทก็สามารถจับจองห้องเฟอร์ครบ พร้อมอยู่ได้วิวแม่น้ำ เหมาะทั้งกับคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อยู่เป็นครอบครัว อยู่กับสัตว์เลี้ยง หรือจะซื้อไว้ปล่อยเช่าลงทุนก็ได้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 – 15 ล้านบาท*

โดยห้องพักอาศัยจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ Nue Collection ซึ่งจะเป็นห้องส่วนใหญ่ของโครงการ คือ Studio , 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus (ห้องหน้ากว้างทุกยูนิต) อยู่ที่อาคาร A – F เหมาะกับอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คนกำลังดี ส่วนห้องพักอาศัยอาคารริมน้ำ G และ H อยู่ในกลุ่ม River Collection มีให้เลือกตั้งแต่ 1 – 3 Bedroom โดยรีวิววันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างถึง 3 Type ซึ่งบรรยากาศและวัสดุในห้องจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกันค่ะ

รูปแบบห้องพักอาศัย

  • Studio 22 – 23.15 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 24.9 – 31.65 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 33.6 – 45.3 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 47 – 77.35 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished : จำนวนและประเภทที่ให้ขึ้นกับรูปแบบห้อง เช่น ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต(ไม่รวมฟูกที่นอน) , โต๊ะข้างเตียง , ตู้เสื้อผ้า , โซฟา , โต๊ะกาแฟ , ชั้นวางทีวี , โต๊ะอาหาร , เก้าอี้ , ตู้รองเท้า
  • บางรูปแบบห้องจะได้ของเพิ่มเติมในบางชิ้น เช่น ฐานเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต (ไม่รวมฟูกที่นอน), โต๊ะเครื่องแป้ง, เก้าอี้แต่งหน้า, ชั้นวางของ, เคาน์เตอร์ Island, โต๊ะทำงาน, ชั้นวางของในห้องน้ำ
  • Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ (คีย์การ์ด , กุญแจ , กดรหัส , สแกนลายนิ้วมือ และ Bluetooth) จาก HOME SHIELD
  • พื้นห้องปูด้วยพื้นลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • เคาน์เตอร์ครัว : Top หินสังเคราะห์ + Backsplash กระจกเงา
    Hob , Hood (ระบายอากาศแบบหมุนเวียน) และอ่างล้างจานจาก MEX
  • สุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ในห้องน้ำของ American Standard และ COTTO
  • แอร์แบบ Wall Type 1 – 5 เครื่อง (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง) จากยี่ห้อ DAIKIN
  • ความสูงฝ้าเพดานห้องนั่งเล่น – ห้องนอน 2.60 เมตร , ครัว – ห้องน้ำ 2.40 เมตร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 


รูปแบบห้อง Studio 22 – 23.15 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างรูปแบบห้อง Studio ขนาด 22.55 ตร.ม. เป็นห้องแบบ Open Plan ดูโปร่งโล่งแต่ยังได้ความเป็นสัดส่วน ห้องนอนอยู่ด้านใน เวลาเปิด – ปิดประตูเข้า – ออกคนด้านนอกมองไม่เห็นส่วนพักผ่อน จึงทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว ซึ่ง Layout นี้มีความพิเศษคือ สามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มตรงปลายเตียงแยกกับส่วนนั่งเล่นได้ (เส้นประสีแดง) หากใครซื้ออยู่อาศัยคนเดียวก็ถือว่าสะดวกสบายเลย ฟังก์ชันด้านหน้าเป็นครัวเปิด ได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เหมาะกับใช้เตรียมอาหารแบบเบาๆ หรือเป็นพื้นที่เก็บของได้ เวลาไปซื้อของกลับมาก็จัดเก็บได้สะดวก ไม่ต้องหิ้วไกล ตรงกลางยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทานนข้าว 2 ที่นั่ง หรือปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้ ส่วนนั่งล่นอยู่ติดระเบียง ได้ความโปร่งโล่ง เวลานั่งพักผ่อนดูทีวี ก็สามารถเปิดรับวิว รับลมได้ ส่วนห้องน้ำอยู่ด้านในสุด ติดกับเตียงนอนและมุมแต่งตัว เดินเชื่อมต่อใช้งานง่าย

เข้ามาชมบรรยากาศในห้องตัวอย่าง เริ่มจากประตูทางเข้ากรุลายไม้ ได้สีเหมือนห้องตัวอย่าง ติดตั้งมาพร้อม Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จาก HOME SHIELD บริเวณพื้นมีการทำขอบขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยเก็บรอยต่อวัสดุได้ดี และป้องกันฝุ่นผงที่จะปลิวเข้าไปในห้อง

ติดกับประตูทางเข้าเป็นโซนครัว แยกพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ด้านในเป็นส่วนนั่งเล่นติดกับระเบียง ส่วนตัวเรามองว่าถึงจะเป็นห้อง Studio ก็ยังดูโปร่งโล่ง เพราะแปลนที่เป็นแบบหน้ากว้าง มาพร้อมความสูงฝ้าเพดานถึง 2.60 เมตร

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ ในห้องตัวอย่าง Studio

เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ ในห้องตัวอย่าง Studio

เคาน์เตอร์ครัวโครงการ Built – in มาให้ทั้ง 2 ฝั่ง ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารหรือเก็บของได้ โดยฟังก์ชันเป็นครัวเปิด อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารหนักๆ หรือมีกลิ่นแรง เพราะป้องกันกลิ่นได้ไม่ดีเท่าครัวที่มีประตูกั้นแยก หรือครัวติดระเบียง ซึ่งหากใครชอบครัวปิด ก็จะมีห้องไซส์ 1 Bedroom Plus ขึ้นไปให้เลือกนะคะ

โดยวัสดุจะได้มาคล้ายกันคือ ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ติดตั้งมาพร้อม Backsplash กระจกเหมือนในห้องตัวอย่าง มีเตาไฟฟ้า 1 หัว เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานจาก MEX ได้มาพร้อมใช้งาน ใต้อ่างเป็นตู้เก็บของบานเปิด ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ ด้านข้างเตรียมเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ส่วนด้านบนได้เป็นตู้ลอยใช้เก็บของ มีช่องให้วางไมโครเวฟได้

อีกฝั่งเป็นตู้เก็บของ Built – in เช่นกัน แบ่งเป็นลิ้นชักดึงออกมาเป็นตู้เก็บรองเท้า ใช้งานสะดวก ข้างๆเป็นช่องใส่ตู้เย็นได้ความกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร ถือเป็นไซส์มาตรฐานนะคะ สามารถเลือกรุ่นที่ชอบมาใส่ได้เลย

Image 1/7
พื้นที่ใช้งานส่วน Pantry และพื้นที่รับประทานอาหารภายในห้องตัวอย่าง Studio

พื้นที่ใช้งานส่วน Pantry และพื้นที่รับประทานอาหารภายในห้องตัวอย่าง Studio

รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ทั้ง Built – in และลอยตัว รูปแบบเหมือนในห้องตัวอย่าง ถัดจากเคาน์เตอร์ครัว Built – in เป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง ส่วนนั่งเล่นให้โซฟา มาพร้อม Coffee Table และชั้นวางทีวี จัดว่าได้มาครบ ไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย ส่วนความกว้างได้มาประมาณ 2.35 เมตร ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้ โดยวัสดุพื้นในห้องได้เป็นลามิเนตลายไม้ ความหนา 8 มิลลิเมตร

ระเบียงด้านนอกพื้นปูด้วยกระเบื้อง ได้พื้นที่ใช้งานกว้าง 0.75×2.10 เมตร ด้านข้างมีก็อกน้ำติดตั้งมาให้ ใช้เป็นส่วนซักล้าง หรือตากผ้าด้านอกได้ ราวกันตกเป็นซี่เหล็กโปร่ง ช่วยระบายอากาศและเปิดรับแสงได้ดี ไม่อึดอัด

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอนในห้องตัวอย่าง Studio

พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอนในห้องตัวอย่าง Studio

ห้องนอนอยู่ด้านหลังโซฟา ดูแยกเป็นสัดส่วน แต่ยังได้ความโปร่งโล่ง ตรงกลางมาพร้อมฐานเตียงขนาด 5 ฟุต , ตู้ข้างเตียง และตู้เสื้อผ้าที่ Built – in มาให้สูงถึงฝ้า ด้านในติดตั้งราวแขวน , ชั้นวาง และลิ้นชักมาครบ ปลายเตียงที่เชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นเหลือพื้นที่ให้เดินกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร

Image 1/8
พื้นที่ใช้งานห้องน้ำ ภายในห้องตัวอย่าง Studio

พื้นที่ใช้งานห้องน้ำ ภายในห้องตัวอย่าง Studio

ประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ติดกับมุมแต่งตัว เดินเชื่อมต่อใช้งานง่าย พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางคั่นด้วยเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ พร้อมตู้เก็บของด้านล่าง กระจกเงายัง Built – in ให้เป็นชั้นวางด้านใน ไว้เก็บโฟมล้างหน้า ยาสีฟัน ได้สะดวก ไม่ต้องวางเกะกะบนอ่าง

ด้านข้างเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ จากยี่ห้อ American Standard มีสายฉีดชำระและที่เก็บกระดาษทิชชู่มาให้ จาก COTTO อีกฝั่งเป็นส่วน Shower ได้พื้นที่ยืนอาบกว้างประมาณ 0.80×1.23 เมตร ติดตั้งมาพร้อมฝักบัว Hand Shower ด้านข้างมีชั้นให้วางขวดสบู่ ยาสระผมได้

สวิตช์และปลั๊กไฟใช้ดีไซน์สีขาวเรียบเหมือนในห้องตัวอย่างจากยี่ห้อ Schneider

Image 1/10
บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง Studio

บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง Studio

นอกจากได้ชมบรรยากาศในห้องตัวอย่างไว้ใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งแล้ว เราก็มีห้องจริงมาให้ชมกันด้วย โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นแบบมาตรฐานที่ได้ทุกห้อง ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*

 


รูปแบบห้อง 1 Bedroom 24.9 – 31.65 ตร.ม.

ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.9 – 31.65 ตร.ม. ได้ Layout คล้ายกับห้อง Studio แต่ได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าและมีการกั้นผนังแยกห้องนอนเป็นสัดส่วน ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว อยู่อาศัยด้วยกัน 2 คนได้สบายๆ ส่วนนั่งเล่นอยู่ด้านในสุดติดกับระเบียง โดยเฟอร์นิเจอร์ได้ดีไซน์มาเหมือนในห้องตัวอย่าง ทั้ง Built – in และลอยตัวใแพคเกจราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท*

เข้ามาในห้องตัวอย่าง จะเจอกับส่วนครัวเปิดเป็นอันดับแรก ได้มากว้างขวางกว่าห้องที่แล้ว พื้นที่ใช้งานแยกเป็น 2 ฝั่ง แบ่งเป็นส่วนทำอาหารและเตรียมอาหารได้สบายๆ หรือใครอยากจะกั้นประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่ม ทำเป็นห้องครัวแบบปิด เราก็มองว่ายังพอมีพื้นที่ให้ทำได้นะคะ

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วน Pantry และพื้นที่รับประทานอาหารภายในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

พื้นที่ใช้งานส่วน Pantry และพื้นที่รับประทานอาหารภายในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

เคาน์เตอร์ทั้ง 2 ฝั่งได้เป็น Built – in จากโครงการสูงถึงฝ้า เพิ่มพื้นที่เก็บของได้เยอะ ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ติดตั้งมาพร้อมชุดครัวจาก MEX ด้านข้างวางโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ได้ 2 ที่นั่ง

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่นในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่นในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

ส่วนนั่งเล่นได้ความกว้างประมาณ 2.36 เมตร วางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีได้สบายๆ ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน เปิดออกไปเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกได้ โดยระเบียงได้พื้นที่ใช้สอย 2.37×0.78 เมตร ถือว่าได้มาค่อนข้างกว้าง จะวางราวตากผ้า หรือกระถางต้นไม้เล็กๆไว้เพิ่มความสดชื่นก็ได้

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอนในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอนในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

ห้องนอนแยกมาอยู่อีกฝั่ง กั้นด้วยประตูบานทึบเพิ่มความเป็นส่วนตัว ตรงกลางวางฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ด้านข้างเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งครบชุดจากโครงการ ด้านข้างเป็นหน้าต่างบาน Fix กระจก + หน้าต่างบานกระทุ้ง ใช้เปิดรับลมและระบายอากาศได้ดี

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานห้องน้ำ ภายในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

พื้นที่ใช้งานห้องน้ำ ภายในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

ห้องน้ำได้แปลนแบบหน้ากว้าง แยกพื้นที่ส่วนเปียก – ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ใช้งานและทำความสะอาดได้ง่าย ภายในติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุดจาก COTTO และ American Standard ด้านข้างโถมีชั้นวาง Built – in มาให้ ด้านล่างมีช่องให้วางชั้นหรือตะกร้าใส่ผ้าเพิ่มได้ ส่วนอาบน้ำอยู่ด้านในสุด ได้พื้นที่กว้าง 0.86×0.90 เมตร

Image 1/9
บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง 1 Bedrooom

บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง 1 Bedrooom


รูปแบบห้อง 1 Bedroom Plus 33.6 – 45.3 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ถือเป็นรูปแบบห้องที่เป็น Highlight ของโครงการ เพราะลักษณะแปลนที่ได้มาเป็นหน้ากว้างทุกยูนิต มี Layout ให้เลือกค่อนข้างเยอะ รวมถึงฟังก์ชันที่มีทั้งครัวเปิด , ครัวปิด เหมาะกับคนที่มองหาห้องไซต์ใหญ่ มีห้องอเนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพิ่มเองได้ โดยห้องตัวอย่างจะเป็นห้องที่มีไซส์ให้เลือก 33.60 – 34.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท* เฟอร์นิเจอร์ให้มาครบ แถมมี Island มาให้ตรงกลาง พร้อมโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่ง อยู่ด้วยกัน 2 คนได้สบายๆ ส่วนที่เราชอบคือห้องน้ำส่วนกลางที่ได้มาแบบ Double Access เข้าออกได้ทั้งจากโถงด้านนอก และภายในห้องนอน เจ้าของห้องใช้งานเองก็สะดวก ไม่ต้องเดินอ้อมไกล รับแขกก็ได้ ไม่เสียความเป็นส่วนตัว

Image 1/9
บรรยากาศในห้องตัวอย่าง รูปแบบห้อง 1 Bedrooom Plus

บรรยากาศในห้องตัวอย่าง รูปแบบห้อง 1 Bedrooom Plus

ห้อง 1 Bedroom Plus ได้แปลนหน้ากว้าง ได้ข้อดีคือ มีช่องแสงมาหลายจุด ทั้งในห้องอเนกประสงค์ , ส่วนนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ได้ความโปร่งโล่ง ส่วน Common Area ได้ขนาดค่อนข้างกว้าง โดยเฉพาะส่วน Pantry และรับประทานอาหาร มี lsand และตู้เก็บของมาให้หลายจุด ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนอยู่ด้านในสุด ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Image 1/8
บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง 1 Bedrooom Plus

บรรยากาศในห้องมาตรฐาน รูปแบบห้อง 1 Bedrooom Plus

ราคา

Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2568

ราคาผ่อนต่อเดือนยกตัวอย่างจาก ดอกเบี้ย 4% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี*
สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร

  • Studio ขนาด 22 – 23.15 ตร.ม. ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 9,500 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,320 บาทต่อเดือน
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 11,000 บาท
  • 1 Bedroom ขนาด 24.9 – 31.65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท*
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 10,455 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 1,494 บาทต่อเดือน
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 12,450 บาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 33.6 – 45.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 13,797 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,016 บาทต่อเดือน
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 16,800 บาท
  • 2 Bedroom ขนาด 47 – 77.35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.96 ล้านบาท
    – ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 23,679 บาท
    – ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 2,820 บาทต่อเดือน
    – ค่ากองทุนเริ่มต้น 23,500 บาท
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ราคาเริ่มต้น 1.99 – 15 ล้านบาท*
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (จ่ายครั้งเดียว)
  • ค่าส่วนกลาง ไม่เกิน 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร 

เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้ค่ะ

  • มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
  • ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
  • มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป

หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะคะ 

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) มีจุดเด่นที่ทำเล ฝั่งนึงอยู่ติดถนใหญ่ราษฎร์บูรณะ อีกฝั่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งคอนโดรอบๆในโซนราษฎร์บูรณะ – พระราม 3 ส่วนใหญ่ที่ยังเหลือขายตอนนี้จะเป็น “คอนโดวิวแม่น้ำ” ที่สามารถ Take View แม่น้ำได้ แต่ไม่มี Facilities หรือพื้นที่เชื่อมต่อกับริมแม่น้ำ โครงการนี้จึงถือว่าเป็น Rare Item ในย่านเลย ส่วนตัวเรามองว่าทำเลนี้เหมาะทั้งกับคนที่ทำงานอยู่ในฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเลย เพราะเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้สะพานเข้า – ออกเมืองถึง 3 แห่ง เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดริมน้ำในราคาหยิบจับง่าย รอบๆอย่ใกล้ย่านที่ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งโซนวงเวียนใหญ่ , เจริญนคร , พระราม 2 , พระราม 3 ออกมาช็อปปิ้งของกิน ของใช้ได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางเข้าเมืองต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำเป็นหลัก โดยสะพานหลักๆ 2 เส้นที่ใช้ก็คือสะพานพระราม 9 (ทางด่วน) และสะพานภูมิพล (วงแหวนอุตสาหกรรม) จากโครงการมุ่งหน้าไปที่ถนนสุขสวัสดิ์ โดยผ่านซอยลัดเลาะได้ โดยปัจจุบันก็มีสะพานทศมราชันที่เป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานพระราม 9 ซึ่งเปิดใช้บริการไม่นาน มาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางได้มากขึ้น ใกล้กับโครงการยังมีทางพิเศษเฉลิมมหานคร อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย โดยที่จอดรถในโครงการเตรียมไว้ให้ 678 คันหรือ 44% ถือว่าพอใช้งานได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงทำให้สามารถเรียกใช้บริการรถสาธารณะได้ค่อนข้างสะดวก มีป้ายรถเมลล์และวินมอเตอร์ไซต์อยู่ไม่ไกลจากโครงการ หรือใครจะไปใช้บริการรถไฟฟ้า จากโครงการก็มี Shuttle Service รับ – ส่งที่ BTS สายสีเขียวได้ และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน –  ราษฎร์บูรณะ เป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้น โดยสถานีที่ใกล้สุดจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 850 เมตร

วัสดุ :

รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบพร้อมอยู่ ถือเป็นจุดที่ได้คะแนนดีกว่าเพื่อนบ้าน เพราะส่วนใหญ่คอนโดในโซนนี้จะเป็น Fully Fitted ซึ่งราคาแพคเกจก็อาจจะสูงกว่า ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าก็สะดวกมาก โดยเฟอร์ที่ได้เรามองว่าก็ให้มาเหมาะสมกับการใช้งานและระดับราคา ทั้งเฟอร์ฯ Built – in และลอยตัว

การออกแบบ :

โครงการได้จุดเด่นเป็นคอนโดริมน้ำ การออกแบบมาในแนวคิด Urbanrest คือ Urban + Forest เพื่อสร้างคอนโดที่ได้บรรยากาศรีสอร์ท รูปทรงของอาคารเป็น Organic Form ได้แรงบันดาลใจมาจากภูเขา , ผืนป่า และสายน้ำ ได้เป็นลักษณะอาคารที่มีการลดหลั่นจำนวนชั้น นอกจากได้รูปทรงที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ยังช่วยเปิดมุมมองจากห้องพักอาศัย ให้สามารถชมวิวริมน้ำได้เต็มที่ ในราคาเริ่มไม่ถึง 2 ล้านบาท ก็ถือว่าได้บรรยากาศและ Facilities แบบจัดเต็ม ไม่แพ้คอนโดราคา 4 – 5 ล้านบาทที่อยู่ในโซนเดียวกันเลย

โดยในส่วนที่ต้องพิจารณาก็คือ จำนวนยูนิตภายในโครงการที่มีเยอะถึง 1,511 ยูนิต แต่เมื่อกระจายแยกเป็น 8 อาคาร ก็ถือว่าช่วยลดความหนาแน่นได้ดี บางตึกมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นแค่ 2 – 6 ห้องเท่านั้นเองค่ะ ส่วนที่เราชอบคือโครงการออกแบบแนวคิดของแต่ละอาคารมาได้ชัดเจน ตอบโจทย์ทั้งคนที่ชอบตึกสูง มี Sky Facilities , อาคารที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และคอนโดที่ได้วิวแม่น้ำ

รูปแบบห้องพักอาศัยก็ถือว่ามีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ห้อง Studio ไปจนถึง 3 Bedroom ซึ่งถือเป็นข้อดีสำหรับคนที่อยากได้คอนโดริมน้ำ ห้องกระทัดรัด ราคาย่อมเยา โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ห้อง 1 Bedroom Plus ที่ได้มาเป็นแบบหน้ากว้างทุกยูนิต มีฟังก์ชันให้เลือกทั้งครัวเปิด และครัวปิด ซึ่งในรูปแบบห้องอื่นๆก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเองได้นะคะ

สาธารณูปโภค :

Facilities มีกระจายให้ใช้งานได้ทุกอาคาร ฟังก์ชันได้มาหลากหลาย โดยแต่ละอาคารก็จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป แบ่งได้เป็น 3 โซน คือ Sky Zone บนชั้น 35 (อาคาร B – C) , Forest Zone พื้นที่สวนขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ ได้เนื้อที่มากว่า 3 ไร่  และ River Zone ที่อยู่ติดริมน้ำ มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ โดยแต่ละอาคารสามารถเดินเชื่อมต่อใช้งานกันได้ง่าย จะใช้ Jogging Track หรือ Sky Path ที่ชั้น 2 ก็ได้ โดยระยะจากอาคารจอดรถถึงส่วนริมน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 250 เมตร หากใครไม่ชอบเดิน โครงการก็มีรถกอล์ฟคอยวิ่งให้บริการค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 9x,xxx บาท/ตร.ม., 3 ธันวาคม 2568

  • ทำเล 8/10 – ติดแม่น้ำและถนนราษฎร์บูรณะ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 –  เข้า – ออกเมืองง่าย ใกล้สะพานใหญ่ 3 แห่งและทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – โครงการติดถนนใหญ่เรียกวินหรือแท็กซี่ได้ง่าย มีรับ – ส่งไป BTS อนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่าน อยู่ห่างจากโครงการ 850 เมตร
  • วัสดุ 8.5/10 – เฟอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่
  • แบบ 8.5/10 –  ยูนิตเยอะ แต่กระจายความหนาแน่นได้ดี แบบให้มีให้เลือกตั้งแต่ Studio – 3 Bedroom ห้อง 1 Bedroom Plus ได้ห้องกว้างทุกยูนิต
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 30 ฟังก์ชัน มี Facilities ริมน้ำ
  • MAIN CLASS
  • 8.1 / 10.00

Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ดีไหม?

Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ดีกับในแง่ของบรรยากาศและราคา โครงการเป็นคอนโดริมน้ำ สามารถ Take View ได้รอบด้าน รูปแบบห้องก็มีให้เลือกเยอะ เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดริมน้ำ แต่ไม่อยากได้ห้องไซส์ใหญ่ โครงการยังมีอาคารเลี้ยงสัตว์ได้อยู่ด้วย ในแง่ของราคาก็ถือว่าทำออกมาได้หยิบจับง่ายในงบ 2 – 3 ล้านบาท ก็ได้คอนโดวิวแม่น้ำ จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าก็สะดวก เพราะได้เฟอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่

ตัวอย่างโครงการ คอนโดในโซนราษฎร์บูรณะ –  พระราม 3


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่