รีวิว The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) คอนโดที่ใกล้ BTS ที่สุดในซอยทองหล่อ หรือเรียกได้ว่าอยู่ต้นซอยที่สุดแล้วนะคะ มีระยะเดินถึง BTS ทองหล่อเพียง 70 เมตรเท่านั้น และยังอยู่ในสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ที่เต็มไปด้วยแหล่ง Lifestyle Hangout ด้วยคุณค่าของทำเลที่หายากแบบนี้ จึงเป็นเหตุผลให้หลายๆ คนเลือกซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน ในราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจในหลายประเด็น เราสรุปมาให้ดังนี้ค่ะ

  • เข้า-ออกได้ 2 ทาง คือสามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) และซอยสุขุมวิท 57 (เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น) ทำให้ไม่ต้องรอไฟแดงตรงแยกทองหล่อทุกครั้ง
  • Mixed-use ที่นี่เป็นคอนโด Mixed-use (Residential & Commercial) ที่ชั้นล่างมีร้านอาหาร คาเฟ่ และ Co-Working Space จึงเป็นพื้นที่นัดพบ Hangout หรือนัดประชุมที่โครงการได้สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางไปที่อื่นเลย ซึ่งในส่วนของ Residential Zone ก็มีการแยกทางเข้าออก มีการใช้ระบบ Key Card ที่คนภายนอกไม่สามารถเข้าถึงได้
  • Well-being โครงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งแสง, เสียง, อากาศและลดความร้อนจากภายนอก
  • ห้องใหญ่ Living Area กว้าง ความหรูหราของโครงการระดับนี้บางทีแค่วัสดุ หรือหน้าตาอาคารที่ Represent เรื่องความหรูหราก็อาจจะไม่พอ เรื่องของขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง ดูโปร่ง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่กลุ่มผู้ซื้อระดับ Hi-End มองหาเช่นกัน ทางโครงการจึงออกแบบให้ทุกห้องเป็นครัวเปิด เพื่อเชื่อม Living กับ Kitchen เข้าหากัน ดูโปร่งโล่ง และใช้ผนังกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 m. ส่งเสริมกันให้ได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่คอนโดมากนักแต่เหมือนอยู่บ้านที่มีพื้นที่โล่งมากกว่า
  • ออกแบบมาในสไตล์ Minimal Quiet Luxury จากบริษัทออกแบบชั้นนำอย่าง PIA, TROP, HB Design ดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลาด้วยหิน Travertine นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งไม่ใช่แค่นำมาประดับเฉยๆ แต่ใช้กับผนังทั้งภายนอกภายใน
  • Concierge Service ตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 1 ทุ่ม มีบริการจองแม่บ้าน, สปา, จองซัก-รีด, บริการรถรับ-ส่ง, งาน Catering ต่างๆ
  • Pet-Friendly เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดได้อย่างเปิดเผยถูกต้อง

ข้อมูลโครงการ

รีวิว The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568

 ชื่อโครงการ   The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ)
 ชื่อผู้ประกอบการ   Eden Estate Corporation Limited joint venture with Magnolia Quality Development Corporation
 SEGMENT CLASS   SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนสุขุมวิท 55 เขตคลองเตย
 ที่ดิน   1-2-46 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 30 ชั้น
 จำนวนยูนิต   188 ยูนิต
 ที่จอดรถ   204 คัน หรือคิดเป็น 103%
 เริ่มก่อสร้าง   Q4 ปี 2561
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   Q4 ปี 2564
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.5 – 55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 74.4-107 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 23-35 ล้านบาท
  • Duplex 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 110.4 ตร.ม. (Sold out)
  • Penthouse 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 184.2 ตร.ม. (Sold out)

 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ช่วงราคา 350,000-420,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ https://thestrand.eden-estate.com/
 Call Center 1265

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.724227308494081, 100.579642204654
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • เป็นคอนโดทองหล่อที่ใกล้ BTS ที่สุด เพราะโครงการนี้อยู่ต้นซอยทองหล่อที่สุด
  • อยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคี่เต็มไปด้วยแหล่ง Lifestyle Hangout

The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) ตั้งอยู่ตรงไหน?

The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ ช่วงต้นซอยเลยค่ะ เข้ามาจากถนนสุขุมวิทเพียง 30 m. ก็ถึงโครงการแล้ว เรียกได้เต็มปากว่าเป็นคอนโดทองหล่อที่อยู่ “ต้นซอย” มากที่สุดจึงใกล้ BTS ทองหล่อมากที่สุดในปัจจุบันเมื่อเทียบกับคอนโดทั้งหลายในซอยทองหล่อนะคะ

ต้องบอกว่าการจะรวมที่ดินมาเป็นแปลงใหญ่พอที่จะทำคอนโดมิเนียมขึ้นมาในทำเลทองหล่อแบบนี้ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ซึ่งโครงการยังการันตี Value ที่ดินด้วยทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่หลายๆ คนเลือกซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สินนะคะ

พูดในแง่ของการเดินทางโครงการนี้มีข้อดีอีกอย่างคือสามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) และสุขุมวิท 57 (เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น) ซึ่งแค่ออกสุขุมวิท 57 ได้ด้วยก็ทำให้ความสะดวกในการเดินทางง่ายมากขึ้นได้นะคะ อย่างน้อยๆ คือไม่ต้องรอไฟแดงตรงแยกทองหล่อ-สุขุมวิท (แต่ถ้าจะไปทางพร้อมพงษ์ รอไฟแดงจะสะดวกกว่าค่ะ)

อีกอย่างคือถ้าทำเลแบบคอนโดทองหล่อเลย ก็จะอิงความอุดมสมบูรณ์ในซอยนี้ไปเต็มๆ ซึ่งซอยนี้เรื่องอาหารการกินแหล่ง Shopping ต่างๆ ไม่ธรรมดาเลย มีครบทุกรูปแบบ ไม่ได้มีแค่ระดับ Hi-End เท่านั้นด้วยนะคะ ใครอยากกินข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวทั่วไปก็ยังมีในซื้อกินได้เช่นกัน หรือแค่ Community Mall ในทองหล่อก็มีมากกว่า 4 แห่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Marche’ Thonglor, The Commons, J Avenue, 72 Courtyard เป็นต้น

แถมใกล้ๆ โครงการยังมีโรงแรม 5 ดาวหลายแห่งที่อยู่ในระยะเดินได้ น่าจะถูกใจชาวต่างชาติที่พักอยู่ที่ไทยยาวๆ เพราะในเวลาที่มีญาติมาเยี่ยมก็สามารถพักโรงแรม 5 ดาวใกล้ๆ ได้

คอนโดทองหล่อราคาเท่าไหร่?

มีหลายราคาเลยค่ะ ตั้งแต่กลุ่มคอนโด High Class เริ่มต้นที่ประมาณ 5 ล้านบาท (160,000-250,000 บาท/ตร.ม.) ไปจน Luxury Class ที่มีราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาทขึ้นไป (250,000-350,000 บาท/ตร.ม.) จนมาถึง Super Luxury Class อย่าง The Strand Thonglor ที่มีราคาเริ่มต้นในปัจจุบันอยู่ที่ 18 ล้านบาท (350,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป) ที่นี่จึงจัดอยู่ใน Segment ที่สูงกว่าโครงการส่วนใหญ่ในทองหล่อ แต่ก็แตกต่างจากคอนโดอื่นด้วยโลเคชั่นที่อยู่ต้นซอยใกล้ BTS ที่สุดด้วยเช่นกัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ด้วยความที่ The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) เป็นคอนโดใจกลางเมืองก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “เพื่อนบ้าน” ที่เป็นอาคารสูง ซึ่งส่งผลในเรื่องวิวรอบอาคารนะคะ อย่างโครงการนี้ปัจจุบันทิศที่ไม่โดน Block วิวโดยตรงก็จะมีทิศตะวันตก-ทิศตะวันออก-ทิศใต้ เพราะมีอาคารสูงอยู่เยื้องๆ แทนไม่ได้หันโดยตรงเข้าอาคาร ส่วนทิศเหนือจะติดกับที่ดินเปล่าที่มีศักยภาพให้ขึ้นเป็นอาคารสูงได้ แต่ต้องรอดูว่าอาคารข้างเคียงจะออกแบบเพื่อให้ไม่บล็อกวิวกันได้แค่ไหน เพราะหากเป็นคอนโดเหมือนกันก็คงไม่อยากถูกบล็อกวิวเช่นกันค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 5 ชั้นและที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยสุขุมวิท 57 ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดและโรงแรม
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 3-5 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ 3-5 ชั้น

Image 1/4
วิวจากโครงการทางทิศตะวันตก

วิวจากโครงการทางทิศตะวันตก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

Mass Transit / Expressway

  • รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ~ 70 m.
  • รถไฟฟ้า BTS เอกมัย ~ 700 m.
  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 2.8 km.
  • ทางด่วนฉลองรัช ~ 3 km.

Shopping

  • Park Lane เอกมัย ~ 750 m.
  • Major Cineplex สุขุมวิท ~ 500 m.
  • Gateway เอกมัย ~ 1.4 km.
  • Marché ทองหล่อ ~ 800 m.
  • เวิ้งโบราณ ~ 1.8 km.
  • Eight Thonglor ~ 1.7 km.
  • Seenspace ทองหล่อ ~ 2 km.

Hospital

  • โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 1 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 1.8 km.
  • โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 2.3 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.7 km.

School

  • Trinity International School ~ 750 m.
  • St. Andrews International School ~ 1.6 km.
  • Adventist Ekamai School ~ 2.4 km.
  • Ekamai International School ~ 2.5 km.
  • Bangkok Prep International School ~ 3.7 km.

Hotel

  • Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit ~ 190 m.
  • Hotel Nikko Bangkok ~ 200 m.
  • Ascott Thonglor Bangkok ~ 240 m.
  • InterContinental Bangkok Sukhumvit by IHG ~ 300 m.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • Mixed-use ที่นี่เป็นคอนโด Mixed-use (Residential & Commercial) โดยชั้น 1-3 จะมีคาเฟ่, ร้านอาหาร และ Furniture Showroom ของ Eden Home ทางโครงการจึงออกแบบพื้นที่ด้านหน้าเป็น Open Space แทนการล้อมรั้วแบบ Private เหมือนโครงการทั่วไป แต่จะแยกทางเข้าเฉพาะลูกบ้านไว้ทางโซนด้านหลัง ที่ได้ความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่เงียบสงบกว่า
  • ออกแบบมาในสไตล์ Minimal Quiet Luxury จากบริษัทออกแบบชั้นนำอย่าง PIA, TROP, HB Design ดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลาด้วยหิน Travertine นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งไม่ใช่แค่นำมาประดับเฉยๆ แต่ใช้กับผนังทั้งภายนอกภายใน
  • Concierge Service ตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 1 ทุ่ม มีบริการจองแม่บ้าน, สปา, จองซัก-รีด, บริการรถรับ-ส่ง, งาน Catering ต่างๆ
  • Pet-Friendly เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดได้อย่างเปิดเผยถูกต้อง แต่จำกัดน้ำหนักไว้ที่ 10 kg. สามารถปล่อยวิ่งเล่นที่ The Strand Park ได้ แต่ถ้าเข้าในอาคารต้องใส่รถเข็นหรืออุ้มเท่านั้นนะคะ

The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) เป็นคอนโดแบบ Mixed-Use ซึ่งเราต้องออกตัวเลยว่าเราไม่ค่อยเห็นโครงการระดับ Super Luxury ที่ทำเป็น Mixed-use เท่าไรนักนะคะ ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เราสนใจรูปแบบพอสมควรเลย

โซนชั้นล่าง 1-3 จะเป็น Commercial Zone ที่ตั้งใจทำมาเพื่อตอบโจทย์ลูกบ้านเป็นหลัก จาก 3 ร้านที่เปิดอยู่ตอนนี้เป็นคาเฟ่และร้านอาหารไปแล้ว 2 ร้าน ลูกบ้านจึงสามารถลงมาทานข้าว นัดสังสรรค์กับเพื่อน หรือพูดคุยธุรกิจได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล

ซึ่งสิ่งที่ต้องแลกกันคงเป็นเรื่องความคึกคักในชั้นล่าง เพราะแขกหรือลูกค้าที่ไม่ใช่ลูกบ้านก็สามารถเข้ามาใช้งานได้เช่นกัน ซึ่งทางโครงการก็มีการออกแบบจัดการ Planning ให้แยก Residential Zone ไว้อย่างเป็นสัดส่วน (เราอธิบายเพิ่มไว้ใต้แปลนชั้น 1 นะคะ) และตั้งแต่ชั้น 6 เป็นต้นไปจะเป็นชั้นของลูกบ้านทั้งหมด

พูดถึงเรื่องรูปลักษณ์ของอาคารกันหน่อย สำหรับคอนโด Segment นี้ส่วนใหญ่จะมีการออกแบบที่ค่อนข้าง Unique และสร้างความแตกต่างของโครงการตัวเองกันอยู่แล้ว ซึ่งภาพรวม The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) จะดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลา เพราะใช้ผนังเป็น Curtain Wall (กระจกบานใหญ่) ทั้งอาคาร แค่เช็ดกระจกให้สะอาดก็เหมือนใหม่อยู่ตลอดแล้ว

ซึ่งกระจกชนิดนี้ราคาสูงมากจริงๆ แต่ก็แลกมากับความสวยงาม รวมไปถึงยังสามารถกันแสง กันเสียงได้มากกว่าปกติ เพราะโครงการเลือกใช้เป็นกระจก Insulated แบบ Triple Layers มี Air Gap ตรงกลาง จึงหนากว่ากระจกปกติที่เป็น Double Layer

นอกจากนี้ยังตกแต่งผนังทั้งในและนอกอาคารด้วยหิน Travertine นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งไม่ใช่แค่นำมาตกแต่งเพียง Lobby ส่วนเดียว แต่เราจะเห็นว่าโครงการใช้หินชนิดนี้ทั้งภายในและภายนอก เรียกได้ว่าเป็น Minimal Quiet Luxury ความสวยงามแบบนี้จะไม่หวือหวา ไม่ฉูดฉาด แต่สวยงามไปตลอดตามกาลเวลา

ความสวยงามของโครงการการันตีด้วยชื่อเสียงของผู้ออกแบบ ซึ่งทางโครงการเลือกใช้บริษัทออกแบบตัว Top ทั้งหมดค่ะ

งานสถาปัตยกรรมออกแบบด้วยบริษัทชื่อดังอย่าง HB DESIGN ซึ่งมีผลงานการออกแบบมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ ผลงานที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักอย่างเช่น Mulberry Grove, Whizdom 101 เป็นต้น

ส่วนงานออกแบบภายในก็เลือกบริษัทชื่อดังอย่าง pia ที่มีผลงานทั้ง Residential และ Hospitality ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีผลงานร่วมกับโรงแรมในเครือระดับโลก เช่น Dusit Thani Kyoto, The Ritz Carlton, Pune, India ซึ่ง Mood&Tone ของที่นี่ก็จะมีกลิ่นอายของความเป็นโรงแรมรวมอยู่ด้วยนะคะ

ถัดมาที่ Landscape โครงการนี้ออกแบบโดย TROP บริษัทภูมิสถาปัตย์ชื่อดังของไทยที่เคยร่วมงานกับเครือโรงแรมระดับโลกอย่างเช่น Hilton Pattaya หรือถ้าเป็นที่อยู่อาศัยที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเช่น Veranda Pattaya และ 98 Wireless

Masterplan

ในชั้น 1 ที่เราติดข้างไว้เรื่องการจัดการความเป็นส่วนตัว กับรูปแบบโครงการที่มี Commercial อยู่ชั้นล่าง สิ่งที่โครงการออกแบบคือ การแยกโซนลูกบ้านออกมาชัดเจนตั้งแต่การเข้า-ออกเลย ซึ่งลูกบ้านจะเข้า-ออกได้ 2 ทางคือ จากซอยทองหล่อ และซอยสุขุมวิท 57 (โดยซอยนี้ Visitor เข้า-ออกไม่ได้) และมี Lobby แยกส่วนกับ Visitor โดยตรง รวมถึงมีการแยกโถงลิฟต์โดยสารที่ต้องสแกนบัตรผ่านก่อนเท่านั้น

ส่วนเรื่องการจอดรถ สำหรับโครงการนี้ที่เป็น Auto parking ทั้งหมดจะมีลิฟต์รถให้ 3 ตัว เป็นแบบ Auto Parking รองรับได้ 204 คัน คิดเป็น 103% ค่ะ ส่วน Visitor จะมีที่จอดรถแยกออกไป สำรองไว้ให้ประมาณ 10 ช่องจอด ส่วนตัวคิดว่าน้อยอยู่นะคะ แต่พอเข้าใจได้ว่าที่ดินราคาสูงจะให้จัดที่จอดรถเยอะก็คงไม่ไหว

Image 1/4
สวนหน้าโครงการ (ฝั่งทองหล่อ)

สวนหน้าโครงการ (ฝั่งทองหล่อ)

อย่างที่บอกไปว่าโครงการเป็น Mixed-use (Residential & Commercial) ทางเข้าฝั่งทองหล่อจึงไม่ได้ล้อมรั้วเหมือนโครงการทั่วไป แต่ออกแบบเป็นสวน Semi-Public Space ทำให้บรรยากาศหน้าโครงการดูเปิดโล่งสบายตา เรียกว่า The Strand Park โดยที่รอบๆสวนจะมี Pavilion ให้มานั่งเล่นกันได้ ซึ่งสวนนี้ยังมีประโยชน์กับโครงการในแง่ที่เป็น Buffer Zone ช่วยดูดซับฝุ่นและควันรถก่อนที่จะเข้าถึงตัวอาคารได้ด้วย

ทางเข้าฝั่งซอยทองหล่อจะรองรับทั้งลูกบ้านและ Visitors ที่ชอบคือมีทางเดินกว้างๆ ที่แยกกับทางเดินรถไว้เรียบร้อย จึงเดินเข้าออกได้อย่างปลอดภัย

ทางเข้า-ออกรถยนต์เป็นประตูแบบไม้กั้นกระดก ซึ่งลูกบ้านจะผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Keycard และมีพี่ รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ผ่านไม้กั้นกระดกเข้ามาจะเห็นร้าน D’ARK อยู่หน้าทางเข้าเลย

Image 1/5
D'ARK

D'ARK

ร้าน D’ARK เป็นคาเฟ่ชื่อดังที่คนแน่นร้านตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ เค้ามีสาขาอยู่ในห้างดังอย่าง EmQuartier, ICONSIAM, Siam Paragon, CentralwOrld นะ สำหรับสาขาทองหล่อก็คืออยู่ใต้คอนโด The Strand นี่เลย ร้านสวยเหมาะกับ Instagrammable มากๆ สายกาแฟ Specialty ต้องห้ามพลาด ส่วนเมนูอาหารเป็นอาหารอิตาเลียนและเม็กซิกันนะคะ

Commercial Zone จะเชื่อมต่อกันที่ชั้น 1-3 ได้ด้วยลิฟต์และบันได ซึ่งลิฟต์และบันไดโซนนี้จะแยกกับ Residential Zone  อย่างชัดเจน

ถัดมาที่ประตูฝั่งซอยสุขุมวิท 57 เป็นทางเข้าของ Residential Zone จึงมีรั้วรอบขอบชิด

ทางเข้า-ออกรถยนต์เป็นประตูแบบไม้กั้นกระดก ฝั่งนี้ Visitor จะเข้าไม่ได้นะคะ เข้าได้เฉพาะลูกบ้านที่มี Keycard เท่านั้น

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับจุด Drop รถบริเวณ Auto Parking มีไว้บริการถึง 3 ช่อง รองรับได้ 204 คัน คิดเป็น 103% ค่ะ

หากเข้ามาวนส่งลูกบ้านเฉยๆ ก็จะมี Drop-Off บริเวณหน้าอาคารให้วนออกได้สะดวก อยากให้สังเกตว่าผนังเค้าตกแต่งด้วยหิน Travertine นำเข้าจากอิตาลีทั้งอาคารจริงๆ เรียกได้ว่าเป็น Minimal Quiet Luxury ดูสวยงามแบบไม่หวือหวา ไม่ฉูดฉาดค่ะ

เข้ามาด้านใน Residential Lobby จะมีพื้นที่นั่งคอย และมี Concierge Service ที่ให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 1 ทุ่ม มีบริการช่วยจองแม่บ้าน, สปา, ซัก-รีด, ช่วยหารถรับ-ส่ง และ งาน Catering ต่างๆ

หากจะเข้า Lift Lobby จะต้องใช้ Key Card คนที่ขึ้นโซนพักอาศัยได้จึงมีเฉพาะลูกบ้านเท่านั้น

Image 1/5
บรรยากาศบริเวณ Lift Lobby (Residential Zone)

บรรยากาศบริเวณ Lift Lobby (Residential Zone)

โถงลิฟต์ของที่นี่มาในสไตล์ Minimal Quiet Luxury ดูเรียบง่าย เป็นบรรยากาศที่สะอาดตา ปุ่มลิฟต์จะเหมือนที่ใช้กันในอาคารสำนักงาน Grade A ที่ต้องกดเลือกชั้น และ Scan บัตรก่อน ที่หน้าจอจึงจะโชว์ว่าให้ขึ้นลิฟต์ตัวไหน ในลิฟต์เย็นฉ่ำมากค่ะเพราะในลิฟต์ติดแอร์ด้วย ก็เป็นไปตามระดับราคาของโครงการนะคะ

ชั้น 2

Image 1/5
Business Lounge

Business Lounge

Business Lounge ของโครงการนี้ออกแบบไว้ใหญ่มากทีเดียว มี 2 ชั้นเลย จะเดินเข้าจากชั้น 2 หรือชั้น 3 ก็เชื่อมถึงกันได้ คนที่จะใช้งานได้ก็ต้องเป็นลูกบ้านของที่นี่นะ เพราะต้องใช้ Key Card แตะเข้ามา แต่ต้องขึ้นลิฟต์ฝั่ง Commercial Zone ที่เค้าวางตำแหน่งไว้โซนนี้ก็เพื่อให้ลูกบ้านนัด Visitor มาพบได้สะดวก และยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวทางฝั่ง Residential Zone ไว้ด้วย

ที่ชอบมากคือ มี Meeting Room ขนาดใหญ่ 2 ห้อง สามารถนัดประชุมแบบจริงจังที่คอนโดได้เลย ไม่ต้องเดินทางออกไปไหน แต่ต้อง Booking ล่วงหน้านะคะ

ชั้น 3

Image 1/7
DREAMLOFT Bangkok

DREAMLOFT Bangkok

ร้าน DREAMLOFT มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครตั้งแต่ทางเข้าร้านเลยค่ะ เป็นอีกร้านที่เหมาะกับ Instagrammable อีกแล้ว ภายในมีมุมที่นั่งหลากหลายรวมถึงโซฟานุ่มและโต๊ะพูลสำหรับปาร์ตี้ เมนูจะเป็นอาหารไทยและตะวันตกสูตรพิเศษที่ถ่ายทอดมากว่า 10 ปี

Image 1/4
Eden Home

Eden Home

อีกร้านนึงที่เปิดอยู่บนชั้น 3 ของโครงการก็คือ Eden Home ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการของ Eden Estate นี่เองค่ะ ที่นี่จะเป็น Showroom ที่โชว์ของใช้ในครัวเรือน ซึ่งทาง Eden จะเป็นตัวกลางในการคัดสรรและนำเข้ามาขายในไทย โดยเฉพาะของที่เป็นผลงานของศิลปินต่างชาติเช่น โปรตุเกส, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เบลเยียม หรือของไทยๆ ก็จะมีผ้าทอมือแบรนด์ Kramin Textile ที่จะมีความหนากว่าปกติ เพื่อช่วยถ่ายทอดงานฝีมือท้องถิ่น

ชั้น 6

ขึ้นมาที่ชั้น 6 เป็นชั้นเริ่มต้นห้องพักอาศัยนะคะ แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางแทรกมาด้วยคือ Play Area และ Tutor Room เรียกว่าเป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ ลงมาเล่นหรือมานั่งทำการบ้าน เป็นที่ให้ได้พบปะกันทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง

รวมไปถึงห้องพักอาศัยในชั้น 6 ก็มีวิวสวนของตัวเองด้วย แต่จะพูดว่าของตัวเองก็ไม่ใช่ทีเดียว เพราะจริงๆ สวนนี้เป็นสวนส่วนกลางที่ทางโครงการจะเป็นผู้ดูแล เพียงแต่เราเห็นว่าขนาดสวนประมาณนี้ลูกบ้านคนอื่นๆ คงไม่ลงไปเดินสวนนี้เท่าไรนัก ดังนั้นลูกบ้านชั้นนี้ก็น่าจะได้ Benefit เรื่องพื้นที่สีเขียวหน้าบ้านไปเต็มๆ อยู่ค่ะ

Image 1/5
Play Area

Play Area

Play Area และ Tutor Room จะเป็นมุมของคุณหนูๆ ที่มีทั้งเครื่องเล่นและห้องส่วนตัวสำหรับเรียนพิเศษโดยเฉพาะ

ชั้น Typical Floor Plan

Image 1/2
Typical Floor Plan

Typical Floor Plan

มีจำนวนยูนิตสูงสุดเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น และได้ Single Corridor ห้องที่อยู่ตรงข้ามลิฟต์จะวางตำแหน่งประตูอยู่ด้านข้างเพื่อความเป็นส่วนตัว เราชอบที่ไม่มีห้องไหนอยู่ติดกับลิฟต์เลยนะ จึงไม่มีเสียงรบกวนจากลิฟต์ที่อาจเข้ามาในห้องได้

ด้วยความที่ Core Lift อยู่ตรงกลางจึงไม่มีหน้าต่างบริเวณโถงทางเดิน ทางโครงการจึงติดตั้งเครื่องดูดอากาศไว้ให้ชั้นละ 2 จุด เพื่อช่วยถ่ายเทอากาศในบริเวณทางเดินนะคะ ส่วนความหนาแน่นของอัตราส่วนลิฟต์ถือว่าน้อยมาก ตาม Segment ของระดับราคาอยู่ที่ 66 : 1

ชั้น 27

ชั้น 27 และ 27A (ชั้นลอย) ทั้งหมดคือโซน Facilities หลักของโครงการ แบ่งออกเป็น 2 โซนคือ Outdoor และ Indoor

ส่วน Outdoor Highlight คือสระว่ายน้ำยาว 25 m. ยาวเท่า Half Olympic เหมาะกับการว่ายน้ำออกกำลังได้เต็มที่เลย ส่วน Indoor มี The Living Room ขนาดใหญ่รองรับการจัด Private Party ซึ่งที่มีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ภายใน แต่ต้อง Booking ก่อนใช้งานค่ะ

Image 1/4
Swimming Pool

Swimming Pool

สระว่ายน้ำจะหันเข้าซอยทองหล่อ ได้วิวเมืองมุมสูงไปทางฝั่งพร้อมพงษ์ เห็นอาคารสูงอยู่รอบๆ ตอนกลางคืนน่าจะสวยเลยค่ะ

Image 1/3
Children’s Pool

Children’s Pool

สำหรับสระเด็กจะเป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาบังแดดบังฝน ให้มาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน มีขนาดประมาณ 4×4 m. ข้างๆ สระจัดวางชุดโซฟาไว้พร้อม เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถดูแลลูกหลานได้อย่างใกล้ชิด

Image 1/3
Terrace

Terrace

หากใครไม่อยากว่ายน้ำแต่อยากขึ้นมารับลมชมวิว ทางโครงการก็มีโซน Terrace ที่จัดชุดนั่งเล่นไว้รอบๆ พร้อมโต๊ะพูล ดูชิลๆ ดีค่ะ วิวรอบๆ ก็สวยนะ ถึงจะรายล้อมด้วยอาคารสูงแต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีตึกไหนที่บล็อกวิวกันตรงๆ นะคะ

Image 1/9
The Living Room

The Living Room

The Living Room เป็นห้องที่เราสามารถใช้จัด Private Party ประมาณ 8 คนกำลังดี ห้องนี้จะมีทั้งโซนนั่งเล่นและ Kitchen จะเรียก Chef Table มาบริการที่คอนโดเลยก็ได้ แต่ต้อง Booking ล่วงหน้า ทางโครงการก็จะเปิดแอร์เปิดไฟไว้ให้ตามที่จองค่ะ อุปกรณ์ในครัวก็มีมาให้ครบครันไปจนถึงตู้แช่ไวน์เลย

Image 1/5
Changing Room

Changing Room

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขา ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี มาพร้อมล็อกเกอร์เก็บของ ใครขึ้นมาว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนสก็เอาของใช้ต่างๆ เก็บไว้ในตู้ได้

Image 1/2
Sauna Room with Himalayan Salt Sauna

Sauna Room with Himalayan Salt Sauna

นอกจากนี้ยังมี Sauna และ Steam ให้ใช้งานกันด้วย รองรับการใช้งานห้องละประมาณ 2 คนกำลังดีค่ะ ที่พิเศษคือ Sauna Room จะเป็นห้องหินเกลือหิมาลัยมีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพหลายด้านทั้งการบรรเทาอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้และหอบหืด, ช่วยลดความเครียด, ขับสารพิษออกจากร่างกายและบำรุงผิวพรรณ

ชั้น 27A

ชั้นบนเป็น Fitness ทั้งหมด แบ่งเป็นโซนออกกำลังกายแบบ Active กับ โซน Meditation Studio ไว้รองรับการเล่นโยคะ หรือนั่งสมาธิต่างๆ ซึ่งสามารถกั้นประตูปิดเป็นสัดส่วนได้เลย

Image 1/6
Fitness

Fitness

ด้านใน Fitness มีจำนวนเครื่องเล่นเยอะมากเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการ คาดว่าน่าจะแชร์กันใช้ได้สบายๆ โครงการออกแบบผนังเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้ระหว่างออกกำลังก็สามารถชมวิวเมืองมุมสูงไปพร้อมๆ กันได้ ภายในห้องมีอุปกรณ์มาให้ครบ ตอบโจทย์ทั้ง Cardio และ Weight Training โดยใช้ยี่ห้อ Technogym

ซึ่ง Technogym เป็นแบรนด์อุปกรณ์ออกกำลังกายระดับโลกจากประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงในด้านการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม การออกแบบที่หรูหรา แบรนด์นี้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเป็นซัพพลายเออร์อย่างเป็นทางการของการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติหลายรายการ เช่น โอลิมปิก และถูกเลือกใช้ในฟิตเนสระดับ Hi-End, โรงแรมระดับ 5 ดาว และทีมกีฬาระดับโลกหลายแห่ง

เครื่องเล่น Highlight ของที่นี่คือเจ้า Curved Treadmill ลู่วิ่งแบบโค้งที่ใช้แรงขับเคลื่อนจากผู้ใช้เองไม่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า จึงสามารถปรับความเร็วในการวิ่งให้เหมาะสมกับเราได้

Image 1/3
Meditation Studio

Meditation Studio

ถัดมาที่ Meditation Studio เป็นพื้นที่กว้างๆ ที่รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโยคะ หรือนั่งสมาธิต่างๆ ซึ่งเราสามารถกั้นประตูปิดเป็นสัดส่วนได้

Rooftop

ปิดท้ายด้วยชั้นดาดฟ้า ฟังก์ชันหลักๆ เป็นมุมนั่งเล่นชมวิวมุมสูง และมี Putting Green ให้ขึ้นมาซ้อมมือกันได้ ชั้นนี้ลิฟต์ขึ้นไม่ถึงนะคะแต่มีบันไดให้ขึ้นมาได้ การที่มีพื้นที่พักผ่อนอยู่ในชั้นสูงแบบนี้มีข้อดีในเรื่องของการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะจะสูงพ้นจากระยะสายตาของเพื่อนบ้านโดยรอบ จึงได้วิวแบบเคลียร์ๆ เลยนะ

Image 1/4
Rooftop Terrace

Rooftop Terrace

หากใครชอบปาร์ตี้แบบ Outdoor ก็แนะนำมาจุดนี้เลย Rooftop Terrace ซึ่งมีเคาน์เตอร์บาร์ไว้ให้เตรียมเครื่องดื่มด้วย บริเวณนี้สามารถเห็นวิวเมืองได้รอบเลยค่ะ

ปิดท้ายด้วยฟังก์ชันที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ อย่าง Putting Green ให้ขึ้นมาซ้อมพัตต์ลูกสุดท้ายลงหลุมได้แม่นยำขึ้น

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • 1st Floor
    – Residential Lobby
    – D’ARK – Comfort Food & Specialty Coffee
  • 2nd Floor
    – Business Lounge
  • 3rd Floor
    – EDEN HOME – Shop
    – Dream Loft – Restaurant
  • 6th Floor
    – Children’s Play Room
    – Tutor Room
  • 27th Floor
    – Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 25 m.
    – Children’s Pool ขนาดประมาณ 4 x 4 m.
    – The Living Room
    – Changing Room
    – Sauna Room with Himalayan Salt Sauna
    – Steam Room
  • 27th A Floor
    – Fitness เครื่องออกกำลังกายจาก Technogym
    – Meditation Studio
  • Rooftop
    – Putting Green
    – Rooftop Terrace
  • ลิฟต์โดยสารโซนพักอาศัย 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 66 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถ Auto Parking 204 คัน คิดเป็น 103%
  • EV Charging Station
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ 24-hr / CCTV / Key Card
  • Concierge Services 8 โมงเช้า-1 ทุ่ม บริการจองแม่บ้าน, สปา, จองซัก-รีด, บริการรถรับ-ส่ง, งาน Catering ต่างๆ
  • วัสดุตกแต่งผนังส่วนกลาง ใช้หิน Travertine นำเข้าจากอิตาลี

แบบห้อง

Highlight

  • ห้องใหญ่ Living Area กว้าง ออกแบบให้ทุกห้องเป็นครัวเปิด เพื่อเชื่อม Living กับ Kitchen เข้าหากัน ดูโปร่งโล่ง
  • Well-being โครงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งแสง, เสียง, อากาศและลดความร้อนจากภายนอก

แบบห้องของ The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) มีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom 48.10 ตร.ม. ไปจนถึง Penthouse 184.20 ตร.ม. โดยรวมแล้วจะเป็นห้องขนาดใหญ่อยู่สบายนะคะ ก็เป็นไปตามระดับโครงการ Super Luxury ที่กลุ่มคนซื้อต้องการพื้นที่กว้างๆ ให้อยู่สบายอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันจะเหลือให้เลือกเฉพาะ 1-2 Bedroom ดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.5 – 55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 74.4-107 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 23-35 ล้านบาท

แต่หากใครอยาก Combi ห้อง 1 Bedroom ทางโครงการแจ้งว่ามียูนิตที่สามารถ Combi ได้นะคะ แต่ต้องสอบถามตำแหน่งห้องกับทางโครงการอีกครั้งค่ะ

1 Bedroom

Image 1/6
1 Bedroom 53.1 sq.m.

1 Bedroom 53.1 sq.m.

2 Bedroom

Image 1/6
2 Bedroom 74.4 sq.m.

2 Bedroom 74.4 sq.m.

ทุกแปลนจะได้เป็นครัวเปิดทั้งหมดเลย จุดเด่นที่เราคิดว่าน่าจะเป็น Concept การออกแบบของโครงการนี้คือ ต้องการให้พื้นที่โถงกลาง หรือ Common Area ดูกว้างและโปร่ง ซึ่งถ้าเห็นห้องตัวอย่างจะเข้าใจว่าสอดคล้องกับบรรยากาศในห้องอยู่นะ เพราะสิ่งที่ได้มาอย่างกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 m. กับพื้นที่ Common ที่โปร่งโล่ง ส่งเสริมกันให้ได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่คอนโดมากนักแต่เหมือนอยู่บ้านที่มีพื้นที่โล่งมากกว่า

แต่เราต้องบอกก่อนว่าครัวเปิด มีทั้งเหมาะ/ไม่เหมาะ เพราะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน คนที่ไม่เหมาะก็คงจะเป็นคนที่ชอบทำอาหาที่จริงจัง ทอด ผัด ซึ่งกลิ่นสามารถฟุ้งทั่วห้องได้มากกว่ารูปแบบครัวปิด ในขณะที่ห้องรูปแบบครัวเปิด หลายคนชอบ เพราะบรรยากาศโปร่งโล่งนี่แหละค่ะ ทำให้พื้นที่ใช้สอยขนาดเท่าๆ กัน แต่ความรู้สึกจะโปร่งมากกว่า เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารที่มีกลิ่นควันฉุนเป็นประจำ

สรุปวัสดุภายในห้อง

  • ผนัง Lightweight Concrete 10-15 cm. ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างห้อง
  • พื้น Engineering Wood ปิดผิวด้วยไม้โอ๊กขาว เคลือบ UV Acrylic Lacquer 7 ชั้น ได้มาตรฐาน E1 (Low VOCs)
  • หน้าต่างและ Curtain Wall เป็น Laminated IGU Glass with Low-E Coating เพื่อกันเสียงและรักษาอุณหภูมิ
  • Fully Fitted kitchen
  • บานตู้ปิดผิวด้วยเป็นวัสดุ Supermatt ป้องกันรอยนิ้วมือบนผิวบานเมื่อสัมผัสและทำความสะอาดง่าย
  • Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์แบรนด์ Caesarstone วัสดุหลักเป็นหินควอตซ์ธรรมชาติ รุ่น Anti-bacterial
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า built-in
    – Hob&Hood แบรนด์ Gaggenau
    – Combi-oven แบรนด์ Siemens
    – ตู้เย็น แบรนด์ Siemens
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ TOTO และ Grohe เป็นหลัก
  • Built-in Wardrobe ทุกห้องนอน
  • ระบบ ERV ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวห้องผ่านระบบกรองฝุ่น PM 2.5 และทำงานร่วมกับ Co2 tracker เมื่อมีค่า Co2 เกินมาตรฐานระบบจะส่งคำสั่งให้ ERV เติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามาโดยอัตโนมัติ
  • LED Lighting 3000k ค่า CRI 90 ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในแง่ของการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสดงสีวัตถุได้สมจริงใกล้เคียงแสงธรรมชาติ ช่วยส่งเสริมการพักผ่อนและการมองเห็นที่ดี
  • Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung รองรับการใช้งาน 5 รูปแบบผ่าน Smartphone, ลายนิ้วมือ, NFC, รหัสผ่าน, กุญแจฉุกเฉิน
  • Home Automation เชื่อมกับ Mobile App
  • Concierge system ผ่านช่องทาง Line, Line Official และ What’s app
  • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
  • Warranty โครงสร้าง 30 ปี

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ขนาด 107 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่สุดในโครงการ สังเกตว่าห้องนี้ให้ความสำคัญกับพื้นที่โถงกลางค่อนข้างมากเลย ไม่ว่าจะเป็นความใหญ่ของพื้นที่และยังอยู่ในตำแหน่งมุมอาคารที่ได้วิวจากทั้ง 2 ฝั่งอีกด้วยนะคะ

โซนห้องนอนจะแยกไว้อีกฝั่ง ทั้ง Master Bedroom และ Bedroom ไม่อยู่ติดกับ Common Area ทำให้ได้ความเงียบเป็นส่วนตัว Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก ฟังก์ชันครบทั้งโซนพักผ่อน, Walk-in Closet, อ่างอาบน้ำแบบ Sexy Bath และระเบียงในตัว 

ส่วนห้องนอนรองจะแชร์ห้องน้ำร่วมกับส่วนกลาง ภายในกว้างพอสมควรจัดวางเตียงนอน 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าได้

เข้ามาในห้องโซนแรกจะเจอกับ Foyer ก่อน โครงการดันพื้นที่พักผ่อนเข้าไปไว้ด้านในห้องทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลย เราสามารถจัดเป็นมุมนั่งใส่รองเท้า, จัดเก็บรองเท้าได้เป็นสัดส่วน

ในส่วนของผนังระหว่างห้องจะเป็นผนังอิฐมวลเบาหนา 15 cm. มีความหนากว่าผนังส่วนอื่น มีค่า STC 46 dB ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างห้อง

Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung รองรับการใช้งาน 5 รูปแบบผ่าน Smartphone, ลายนิ้วมือ, NFC, รหัสผ่าน, กุญแจฉุกเฉิน

ข้างประตูมีหน้าจอ Home Automation ที่ใช้ควบคุมไฟ, แอร์ในห้องได้ หากก่อนออกจากห้องเราต้องการปิดไฟทุกดวงในห้องก็สามารถกดที่แผงควบคุมได้เลย และเจ้า Home Automation นี้ก็เชื่อมต่อกับ Mobile App ได้ด้วยนะ

ถัดเข้ามาจาก Foyer จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการจะ Built-in ให้ตามแบบในรูปเลยนะคะ บานตู้ปิดผิวด้วยวัสดุที่เป็น Supermatt ช่วยป้องกันรอยนิ้วมือบนผิวบาน, ทำความสะอาดง่าย, สีไม่ซีด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Top เคาน์เตอร์ครัว + Back Splash เป็นหินสังเคราะห์แบรนด์ Caesarstone วัสดุหลักเป็นหินควอตซ์ธรรมชาติถึง 93% ทำให้มีความแข็งแรงคงทนต่อคราบเปื้อน เป็นรุ่น Food-Grade ที่มีคุณสมบัติในการ Anti-bacterial มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว, ซิงค์ล้างจาน และ Combi-oven แบรนด์ Siemens

Hob&Hood ที่ให้มาเป็นของแบรนด์ Gaggenau แบบต่อท่อดูดควันออกไปด้านนอก และตู้เย็นจากแบรนด์ Siemens ก็ฝังมาไว้ในตู้ Built-in เลยดูเรียบร้อยสะอาดตา

ระบบแสงสว่างในห้องใช้เป็นไฟ LED Lighting 3000k ค่า CRI 90 ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในแง่ของการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและ แสดงสีวัตถุได้สมจริงใกล้เคียงแสงธรรมชาติ ช่วยส่งเสริมการพักผ่อนและการมองเห็นที่ดี

ข้างเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ริมหน้าต่าง จากตำแหน่งนี้เราจะสามารถนั่งทานข้าวไปดูทีวีไปได้ด้วยนะ

ความหรูหราของโครงการระดับนี้บางทีแค่วัสดุ หรือหน้าตาอาคารที่ Represent เรื่องความหรูหราก็อาจจะไม่พอ เรื่องของขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง ดูโปร่ง ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่กลุ่มผู้ซื้อระดับ Hi-End มองหาเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ชัดจาก Common Area ของห้องที่เชื่อมทั้งโซนครัวและ Living Area เข้าไว้ด้วยกัน

Living Area อยู่ติดหน้าต่างและระเบียงจึงได้วิวทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ ฝ้าเพดานสูงถึง 3 m. ห้องเลยดูโปร่งโล่งเป็นพิเศษ และหน้าต่างที่โครงการเลือกใช้ยังเป็นบานใหญ่อีกด้วย สเปคเป็น Laminated IGU Glass with Low-E Coating ประกอบด้วยกระจกถึง 3 ชั้นจึงมีความหนามากกว่ากระจก IGU แบบปกติ ช่วยกันเสียงและลดความร้อนจากแสงแดดเข้ามาในตัวห้องได้ดี ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าวงกบประตูบานเลื่อนจะหนามากทีเดียวค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 5 m. สามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 70 – 80″ ได้เลย อีกทั้งยังอยู่ติดหน้าต่างแบบนี้ ก็เลยทำให้สามารถดูทีวีไปด้วยและชมวิวภายนอกไปด้วยได้สบายๆ

Living Area จะมีระเบียงในตัว ซึ่งกว้างถึง 3.2 m. เลย ประตูระเบียงเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน เปิดออกได้กว้าง รับลมรับวิวได้เต็มที่

เราสามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มพื้นที่ เพราะทางโครงการติดตั้ง Comdensing Unit ไว้ด้านบนทั้งหมด

พื้นห้องใช้เป็น Engineering Wood ปิดผิวด้วยไม้โอ๊กขาว เคลือบ UV Acrylic Lacquer 7 ชั้น ได้มาตรฐาน E1 (Low VOCs) คือมีการปล่อยฟอร์มัลดีไฮด์ในระดับต่ำมากและปลอดภัยต่อสุขภาพ, ลดความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ, ไม่มีกลิ่นรบกวน, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ไม้ที่โครงการเลือกใช้เป็นไม้ที่มีสีตามธรรมชาติ และยังนุ่มเท้าด้วยมาตรฐานการติดตั้งเสริม subfloor

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องนอน ซึ่ง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว แต่อีก Bedroom จะแชร์ห้องน้ำกับส่วนกลางนะคะ

เริ่มจาก Master Bedroom กันก่อน ตัวห้องกว้างทีเดียวพอให้วางเตียง King Size ได้ และยังมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะเขียนหนังสือก็ทำได้สบายๆ เลย

ภายในห้องจะติดตั้งระบบ ERV ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ตัวห้องผ่านระบบกรองฝุ่น PM 2.5 และทำงานร่วมกับ Co2 tracker เมื่อมีค่า Co2 เกินมาตรฐานระบบจะส่งคำสั่งให้ ERV เติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามาโดยอัตโนมัติ

ตำแหน่งวางเตียงจะอยู่ติดกับระเบียง จึงสามารถมองเห็นวิวเมืองได้จากบนเตียงเลยค่ะ ระเบียงของห้องมีขนาดประมาณ 2.2 x0.75 m. ใช้งานได้เต็มพื้นที่ เพราะโครงการจัดตำแหน่ง Condensing Unit ไว้ด้านบน

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและ Walk-in Closet ซึ่งเฉพาะใน Master Bathroom ที่จะได้ Sexy Bath เป็นกระจกเข้ามุมแบบนี้นะคะ

ที่บริเวณหน้าห้องน้ำจะได้เป็นชุดตู้เสื้อผ้า Built-in บานเลื่อน ซึ่งเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการสั่ง Custom Design เอง ใช้สีขาวให้ดูเรียบร้อยสะอาดตา และเข้ากับการตกแต่ง Interior ในหลายๆ สไตล์

ภายในห้องน้ำจัดมาให้มี 3 ฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ คือโซนโถสุขภัณฑ์+อ่างล้างมือ, โซน Shower และโซนอ่างอาบน้ำ ซึ่งส่วนเปียกและแห้งจะมีฉากกั้นกระจกติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย

สำหรับอ่างล้างมือและเคาน์เตอร์โครงการเลือกใช้เป็น Solid Surface ดูเป็นแผ่นผืนเดียวกัน มีพื้นที่ไว้สำหรับวางของได้ สุขภัณฑ์เป็นรุ่นอัตโนมัติจาก TOTO สังเกตตรงด้านหลังของโถสุขภัณฑ์เค้าจะเก็บพวก Service ต่างๆ ของโถสุขภัณฑ์ไว้ให้ดูเรียบร้อยเลย

สิ่งที่เราชอบคือการตกแต่งโทนสว่างดูสะอาดตาและมีการเล่นแสงไฟแบบ Indirect light บริเวณด้านหลังกระจกเงาด้วย

โซนเปียกแบ่งพื้นที่เป็น Shower และอ่างอาบน้ำ ซึ่งมุม Shower จะลดระดับพื้นลงอีกนิดหน่อยและแยกจุด Drain น้ำออกเป็นสัดส่วนเลย อุปกรณ์ต่างๆจะใช้ของ Grohe เป็นหลัก พร้อมเดินระบบน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้

พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างกะทัดรัดหน่อย ขนาดประมาณ 1×1 m. ซึ่งการออกแบบส่วนนี้จะเน้นไปที่อ่างอาบน้ำที่ได้ขนาดใหญ่มากขึ้นเป็น Size ที่คุณผู้หญิงนอนอาบได้สบายๆ เลย

Bedroom อีกห้องสามารถวางเตียงคู่ได้เช่นกันนะคะ แต่น่าจะเหมาะกับ Queen Size มากกว่าและยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าในห้องได้ครบครัน

ทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เลย เป็นตู้บานเลื่อน 2 บานเก็บของได้เยอะพอสมควร ลักษณะของแอร์ที่นี่จะเป็นแบบ Conceal Type ทั้งหมดนะคะ เพื่อให้ดูเรียบร้อยสวยงาม และเดี๋ยวเราไปดูฝั่งในห้องน้ำกันต่อ

Bedroom จะแชร์ห้องน้ำกับ Common Area นะคะ โดยออกแบบให้เข้าได้ทั้ง 2 ทาง จึงใช้งานได้สะดวกดี

สำหรับห้องน้ำกลางนี้ Spec ต่างๆ ก็จะไม่ต่างกับในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่มากนัก แค่ไม่ได้มีอ่างอาบน้ำและสุขภัณฑ์เป็นระบบปกติ แต่ก็ใช้ของแบรนด์ TOTO และ Grohe เป็นหลัก

ภายใน Shower Box ของห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียว ขนาดประมาณ 0.9 x 1.9 m. นะคะ และมีหน้าต่างบานสูงที่เปิดรับแสงและระบายอาาศได้ดีเลยค่ะ ถ้ากลัวโป๊ก็ติดฟิล์มหรือมู่ลี่เพิ่มได้นะคะ


ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ขนาด 79.6 ตร.ม.

ถัดมาอีกห้องตัวอย่างก็เป็น 2 Bedroom เหมือนกันแต่มีขนาดย่อมลงมาหน่อยที่ 79.6 sq.m. สังเกตว่าห้องนี้จะวาง Common Area ไว้ตรงกลาง และวางห้องนอนไว้ 2 ฝั่งซ้ายขวา จุดที่น่าสนใจคือ ห้องนอนทั้ง 2 จะไม่ได้มีขนาดแตกต่างกันมาก แค่ Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองต้องแชร์ห้องน้ำกับส่วนกลาง แต่ก็มีระเบียงในตัวและอยู่ในตำแหน่งมุมตึกที่ชมวิวได้ 2 ฝั่งเลยค่ะ

โซนแรกด้านหน้าห้องจะมีตู้เก็บของ Built-in ไว้ให้

เข้ามาภายในจะเห็นพื้นที่โล่งแบบนี้เลยนะคะ เปิดเชื่อมโซนครัวกับโซนนั่งเล่น ให้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่ง

Living Area ได้เป็นพื้นที่ติดหน้าต่าง มีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 5 m. สามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 70 – 80″ ได้เลย ด้านข้างมีประตูสำหรับเปิดออกไประเบียง ซึ่งเป็นระเบียงที่แชร์กับห้องนอนรองนะคะ

บริเวณเคาน์เตอร์ครัวได้สเปคเดียวกับห้องแรก มีเคาน์เตอร์แบบ Island มาให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารไม่พอเราอาจวางโต๊ะเชื่อมต่อกับ Island เลยเพื่อประหยัดพื้นที่ หรือจะจัด Island ให้เป็น Breakfast Counter ก็ได้นะ

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำกลาง สเปคและแปลนจะเหมือนกับห้องแรกเลย ใช้งานได้สะดวก

มีประตู 2 ทางคือเข้าได้จาก Common Area และห้องนอนรองค่ะ

ภายในห้องนอนรองดูโปร่งโล่งมาก เพราะเป็นตำแหน่งมุมที่ได้ทั้งหน้าต่างและระเบียง เห็นวิวได้ 2 ฝั่ง

ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เรียบร้อย

วิวทางทิศตะวันออกก็จะได้ประมาณนี้ เป็นวิวเมืองที่ไม่ได้โดนบล็อกวิวในระยะใกล้นะคะ

ปิดท้ายกันด้วย Master Bedroom ได้ห้องกว้างเหมือน Master Bedroom ในห้องแรก แปลนคล้ายๆ กัน จัดฟังก์ชันได้ครบถ้วน แต่จะต่างกันแค่ไม่มีระเบียงในตัวเท่านั้นค่ะ

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ไว้ให้

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ มาครบ แบ่งเป็นโซนเปียกโซนแห้งไว้ชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ วัสดุต่างๆ ก็ใช้ของแบรนด์ TOTO และ Grohe เป็นหลัก

พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างกะทัดรัดหน่อย แต่เน้นไปที่อ่างอาบน้ำที่ได้ขนาดใหญ่มากขึ้นเป็น Size ที่คุณผู้หญิงนอนอาบได้สบายๆ ค่ะ

ราคา

ราคา The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568

สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.5 – 55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 74.4-107 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 23-35 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • จอง Thai Quota 50,000 บาท / Foreign Quota 200,000 บาท
  • ค่ากองทุน 1,200 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร 

เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้ค่ะ

  • มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
  • ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
  • มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป

หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะคะ 

บทสรุป

ทำเล : The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) เป็นโครงการระดับ Super Luxury ราคาอยู่ในช่วง 350,000-420,000 บาท/ตร.ม. ถ้าเทียบกับคอนโดทองหล่อที่อยู่ในระดับราคาเดียวกันที่นี่ถือว่าเป็นอยู่ทำเลต้นซอยทองหล่อมากที่สุด เอาจริงๆ แล้วการรวมแปลงที่ดินมาสร้างเป็นคอนโด High Rise แบบนี้ยากมากๆ นะคะ ดังนั้นเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

ทำเลของโครงการอิงความอุดมสมบูรณ์ในซอยนี้ไปเต็มๆ ซึ่งซอยนี้เรื่องอาหารการกินแหล่ง Shopping ต่างๆ ไม่ธรรมดาเลย มีครบทุกรูปแบบ แถมใกล้ๆ โครงการยังมีโรงแรม 5 ดาวหลายแห่งที่อยู่ในระยะเดินได้ น่าจะถูกใจชาวต่างชาติที่พักอยู่ที่ไทยยาวๆ เพราะในเวลาที่มีญาติมาเยี่ยมก็สามารถพักโรงแรม 5 ดาวใกล้ๆ ได้

การเดินทางโดยใช้รถ : ข้อดีคือสามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) และซอยสุขุมวิท 57 (เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น) ซึ่งแค่ออกสุขุมวิท 57 ได้ด้วยก็ทำให้ความสะดวกในการเดินทางง่ายมากขึ้นได้นะคะ อย่างน้อยๆ คือไม่ต้องรอไฟแดงตรงแยกทองหล่อ-สุขุมวิท (แต่ถ้าจะไปทางพร้อมพงษ์ รอไฟแดงจะสะดวกกว่าค่ะ)

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ที่นี่เป็นคอนโดที่ใกล้ BTS ที่สุดในซอยทองหล่อแล้ว เพราะอยู่ต้นซอยที่สุด มีระยะเดินถึง BTS ทองหล่อเพียง 70 เมตรเท่านั้น คงไม่มีคอนโดไหนไปใช้ BTS สะดวกเท่า The Strand แล้วค่ะ

วัสดุ : โครงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งแสง, เสียง, อากาศและลดความร้อนจากภายนอก อย่างเช่น ความหนาของผนังระหว่างห้องที่ให้มาหนาพิเศษ 15 cm. เพื่อช่วยกันเสียงภายนอก, พื้น Engineering Wood ที่ได้มาตรฐาน E1 (Low VOCs), หน้าต่างและ Curtain Wall เป็น Laminated IGU Glass with Low-E Coating หนาพิเศษเป็น 3 ชั้นช่วยกันเสียงและรักษาอุณหภูมิ, Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์แบรนด์ Caesarstone วัสดุหลักเป็นหินควอตซ์ธรรมชาติ รุ่น Anti-bacterial,  ระบบ ERV ช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์,  LED Lighting 3000k ค่า CRI 90 ดีต่อสุขภาพ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า Built-in ในครัวก็ใช้แบรนด์ดังอย่าง Gaggenau, Siemens ค่ะ

การออกแบบโครงการ :  รูปแบบโครงการนี้เป็นแบบ Mixed-use จึงไม่ได้มีแค่ Residential Zone เท่านั้นแต่ชั้นล่างทำเป็น Commercial Zone ด้วย ซึ่งก็จะเป็นพวกร้านอาหาร คาเฟ่ และโซนทำงาน Co-Working ต่างๆ ทำให้รูปแบบโครงการแบบนี้มีจุดที่ต้องพิจารณาคือความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย ที่จะต้องมาคิดว่าจะให้น้ำหนักในแง่ไหนมากกว่ากัน เพราะถ้ามองแง่ความเป็นส่วนตัวเทียบกับโครงการทั่วไป ความเป็นส่วนตัวอาจจะน้อยกว่า เนื่องจากชั้นล่างคอนโดก็จะมีคนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้งานส่วน Commercial ได้

แต่ทางโครงการก็ได้มีการออกแบบอาคารแยก Residential Zone ไว้ให้เป็นสัดส่วนเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถ้าใครที่ไม่ได้ซีเรียสในเรื่องความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ เรามองว่ามัน Trade off กับความสะดวกสบายที่หลายโครงการไม่มี คือการมีร้านอาหาร คาเฟ่ หรือพื้นที่คุยงานด้านล่างโครงการเราเองเลย ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่หลายๆ คนเหมือนกันนะ

ถัดมาคือประเด็นเรื่องการออกแบบที่มาในสไตล์ Minimal Quiet Luxury จากบริษัทออกแบบชั้นนำอย่าง PIA, TROP, HB Design ดู Timeless ไม่เก่าไปตามกาลเวลาด้วย  Curtain Wall ทั้งอาคาร และหิน Travertine นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งไม่ใช่แค่นำมาประดับตกแต่งเท่านั้น แต่ใช้กับผนังภายนอกภายในทั้งอาคารเลยค่ะ

อีกประเด็นคือ ที่นี่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ทั้งน้องหมาน้องแมวไม่เกิน 10 kg. เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดได้อย่างเปิดเผยถูกต้อง ซึ่งในบรรดาคอนโดทองหล่อ Segment เดียวกันมีไม่กี่แห่งที่อนุญาติแบบนี้นะคะ

การออกแบบห้องพัก : ตอนนี้โครงการมีขายเฉพาะ 1-2 Bedroom แล้ว เราจึงขอพูดถึงเฉพาะ 2 Type นี้เป็นหลัก ทุกแปลนจะได้เป็นครัวเปิดทั้งหมดเลย ทำให้พื้นที่โถงกลาง หรือ Common Area ดูกว้างและโปร่ง ซึ่งสอดคล้องกับบรรยากาศในห้องอยู่นะ เพราะสิ่งที่ได้มาอย่างกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 m. กับพื้นที่ Common ที่โปร่งโล่ง ส่งเสริมกันให้ได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่คอนโดมากนักแต่เหมือนอยู่บ้านที่มีพื้นที่โล่งมากกว่า

สาธารณูปโภค : นอกจาก Commercial Zone ที่มีพิเศษไม่เหมือนใครแล้ว ส่วนกลางหลักของ Residential Zone ก็จัดไว้ 2 ชั้นบนสุดของอาคารเป็น Sky Facilities เช่นสระว่ายน้ำยาวแบบ half Olympic แถมมีฟังก์ชันพิเศษๆ เช่น Putting Green, Sauna Room with Himalayan Salt Sauna เป็นต้น แชร์กับเพื่อนบ้านไม่เยอะเพียง 188 ยูนิต แลกมากับค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม./เดือน

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่มีในคอนโด Segment นี้คือ Concierge Service ตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 1 ทุ่ม มีบริการจองแม่บ้าน, สปา, จองซัก-รีด, บริการรถรับ-ส่ง, งาน Catering ต่างๆ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านด้วยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 350,000-420,000 บาท/ตร.ม., @29 November 2025

  • ทำเล 8.5/10 – อยู่ในซอยทองหล่อเต็มไปด้วยแหล่ง Lifestyle Hangout
  • เดินทางด้วยรถ 9/10 – เข้า-ออกได้ 2 ทาง, ที่จอดรถ 103%
  • ไม่ใช้รถ 9/10 – เพียง 70 เมตรถึง BTS ทองหล่อ
  • วัสดุ 8.5/10 – เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งแสง, เสียง, อากาศและลดความร้อนจากภายนอก, ใช้ของแบรนด์ชื่อดัง, ผนังอาคารเลือกใช้ Curtain Wall หนาพิเศษ 3 ชั้นและหินนำเข้าทั้งโครงการ
  • แบบ 8/10 – Minimal Quiet Luxury ไม่เก่าไปตามกาลเวลา , เน้นห้องโปร่ง เปิดเชื่อมกันให้ดูกว้าง
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบและแชร์กับลูกบ้านไม่เยอะ, เป็น Mixed-use มีร้านให้ Hangout ในโครงการ

  • SUPER LUXURY CLASS
  • 8.5 / 10.00

The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) ดีไหม?

The Strand Thonglor (เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตโซนทองหล่อ ในทำเลที่เดินทางได้สะดวกทั้งใช้รถยนต์และไม่ใช้รถยนต์ ดูจากโลเคชั่นของคอนโดแล้วน่าจะถูกใจชาวต่างชาติ ทั้งความสะดวกในการเดินทางไป BTS และอยู่ใกล้โรงแรม 5 ดาว ทำให้ง่ายต่อการต้อนรับญาติหรือเพื่อนฝูง ซึ่งทำเลต้นซอยแบบนี้หาได้ยากมากจึงเป็นเหตุผลให้หลายๆ คนเลือกซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สินนะคะ

นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต เพราะโครงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสุขภาพ อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่ต้องการชีวิตที่สะดวกสบาย เนื่องจากความเป็น Mixed-use ของโครงการมีแหล่ง Hangout อยู่ในอาคารเดียวกันให้นัดพบปะเพื่อนๆ หรือนัดคุยงานได้สะดวก แต่ก็ยังคงมีความเป็นส่วนตัว

ชอบห้องที่ออกแบบเน้นความโปร่งโล่ง เป็นห้องขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์อย่างเปิดเผยด้วยค่ะ ในราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นประมาณ 126,000 บาท/เดือน (ยังไม่รวมค่าตกแต่ง)

ตัวอย่างคอนโดในโซนทองหล่อ

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่