รีวิวฉบับที่ 2880… เปิดตัวโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) คอนโด Low Rise 7 ชั้นแบรนด์ ‘Haus’ แห่งที่ 7 จาก แสนสิริ ภายในเวิ้ง T77 ใกล้ Bangkok Prep International School , Habito Mall แบบเดินถึง นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจาก BTS อ่อนนุชอีกด้วย แถมเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจคุณพ่อคุณแม่น้องหมาแมวในย่านนี้ ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท โดยโครงการมี Highlight ดังนี้

  • ใกล้ Bangkok Prep International School แบบสุดๆเพียง 80 เมตร ให้เด็กๆเดินไปเรียนยังได้เลย
  • ใกล้ Habito Mall ไปหาของกินได้ง่ายเพียง 450 เมตร จะนั่งรถโครงการหรือเดินทางไปเองก็สะดวกทั้งนั้น
  • ไม่ไกลจาก BTS อ่อนนุช เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางให้ลูกบ้าน
  • คอนโด Pet Welcome เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งหายากในโซนนี้ แถมยังมีส่วนกลางและออกแบบห้องพักสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • โครงการให้เครื่องกรองอากาศแรงดันบวกทุกยูนิต ช่วยกรอง Pm 2.5 ได้

ข้อมูลโครงการ

valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2568

 ชื่อโครงการ   valles HAUS (วาลเลส เฮาส์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   แขวง พระโขนงเหนือ เขต วัฒนา
 ที่ดิน   ประมาณ 6 ไร่
 ประเภทคอนโด   Low Rise 7 ชั้น 3 อาคาร
 จำนวนยูนิต   408 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A 138 ยูนิต / อาคาร B 138 ยูนิต / อาคาร C 132 ยูนิต (เลี้ยงสัตว์ได้เฉพาะอาคาร C)
 ที่จอดรถ   55% (ไม่รวมซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง   สิงหาคม ปี 2568
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2570
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33.75-35.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 47.75 – 48.25 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 61.25 – 62.50 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 90.25 ตร.ม.

 ราคาเริ่มต้น  4.69 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 145,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1685

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ใกล้ Bangkok Prep International School : แบบสุดๆเพียง 80 เมตร ให้เด็กๆเดินไปเรียนยังได้เลย
  • ใกล้ Habito Mall : ไปหาของกินได้ง่ายเพียง 450 เมตร จะนั่งรถโครงการหรือเดินทางไปเองก็สะดวกทั้งนั้น
  • ไม่ไกลจาก BTS อ่อนนุช : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางให้ลูกบ้าน จะเรียกรถไปเองหรือนังรถของโครงการไปใช้รถไฟฟ้าก็สะดวก

พิกัด Google Maps : 13.716021544881716, 100.60280104251375
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ค่ะ

โครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ตั้งอยู่ติดถนนฮาบิโตะใน T77 Community ซึ่งหลายคนก็ทราบกันดีว่าเป็นอาณาจักรของแสนสิริ ภายในมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ครบ ทั้ง Community Mall  , โรงเรียนนานาชาติ  , สวนสาธารณะและแหล่งงาน เรียกได้ว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ใน T77 แบบไม่ต้องออกไปไหนเลยแหละ หรือใครที่ต้องออกไปทำงานในโซนอื่นๆก็ไม่ต้องกังวลนะ เพราะจากโครงการสามารถทะลุมายังถนนอ่อนนุชและซอยปรีดี พนมยงค์ 2 ได้ไม่ยาก ซึ่งถนนทั้ง 2 เส้นจะเชื่อมต่อไปยังถนนหลักอย่างถนนพัฒนาการและถนนสุขุมวิท ทำให้เราเดินทางเข้าตัวเมืองไปโซนอโศก หรือออกไปทางสำโรง , ศรีนครินทร์ได้ง่ายขึ้น

Image 1/3
Bangkok Prep International School ฝั่งประตูที่ใกล้กับโครงการที่สุด

Bangkok Prep International School ฝั่งประตูที่ใกล้กับโครงการที่สุด

ภายใน T77 มี Habito Mall ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้าร้านอาหาร เราจึงออกมาหาของกินได้สบายๆ หรือใครขี้เกียจออกจากห้องจะสั่งผ่านแอพมากินที่ห้องก็แทบจะไม่ต้องเสียค่าส่งเลยค่ะ เพราะห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตรเท่านั้นเอง นอกจากนี้ตรงข้ามกับโครงการยังมี Bangkok Prep International School อีกด้วยนะ สำหรับคนที่มีลูกหลานเรียนอยู่ก็เดินไปส่งได้เลย จากโครงการไปยังประตูโรงเรียนที่ใกล้ที่สุดประมาณ 80 เมตรเองค่ะ

Image 1/7
บรรยากาศของ Sansiri Children's Playground

บรรยากาศของ Sansiri Children's Playground

เนื่องจากบริเวณนี้เป็นอาณาจักรของแสนสิริ ที่มีอาคารสำนักงานอย่าง Siri Campus ใครที่ทำงานในอาคารนี้จะเดินหรือขับรถมาทำงานก็สะดวกไปหมดเลย  ส่วนข้างๆ จะมี Sansiri Children’s Playground ที่เป็นเหมือนสวนสาธารณะให้คนมาออกกำลังกาย หรือพาเด็กๆมาเล่นสนุกกันได้

ใครที่ชอบไปเดินซื้อของเข้าห้องตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ก็มีตัวเลือกทั้ง Big C Extra ที่ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กิโลเมตร หรือ Lotus’s ที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า เผื่อใครที่ใช้รถไฟฟ้าจะซื้อของก่อนกลับคอนโดก็สะดวกนะ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนฉลองรัช ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนลาดพร้าว , รามอินทราได้

จากโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ห่างจาก BTS สถานีอ่อนนุชประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ทำให้เราเดินทางไปโซนอโศก , สำโรง , อารีย์ได้ด้วยไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด โดยโครงการจะมีรถรับ-ส่งจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าด้วยนะ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน แต่เรื่องรอบและเวลาเดินรถ จะต้องสอบถามโครงการอีกครั้งนะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ส่วนใหญ่จะเป็น อาคารพักอาศัย 7 ชั้น , สนามเทนนิส , ชุมชนบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น , โรงเรียนนานาชาติ 4 ชั้น , สวนสาธารณะ , อาคารสำนักงาน 6 ชั้น , ลานจอดรถและที่ว่างรอการพัฒนาที่เราดูจากขนาดพื้นที่แล้ว น่าจะถูกพัฒนาเป็นคอนโดพักอาศัย Low Rise อีกในอนาคตค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมรอบข้างโครงการสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา , บ้านพักอาศัย 3 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ชุมชนบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัย 7 ชั้น , สนามเทนนิส , บ้านพักอาศัย 3 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา
  • ทิศตะวันตก ติดกับ สวนสาธารณะ , โรงเรียนนานาชาติ 4 ชั้น , อาคารสำนักงาน 6 ชั้น

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณหน้าถนนฮาบิโตะที่ติดกับซอยปรีดี พนมยงค์ 2

บรรยากาศบริเวณหน้าถนนฮาบิโตะที่ติดกับซอยปรีดี พนมยงค์ 2

บริเวณหน้าถนนฮาบิโตะเป็นซอยปรีดี พนมยงค์ 2 ซึ่งอยู่บริเวณใต้ทางด่วนฉลองรัช แล้วยังเป็นที่จอดรถของคนทำงานแถวนี้ด้วย ช่วงเวลาทำงานจึงมีพี่รปภ.คอยดูแลสอดส่องตลอด อีกทั้งถนนเส้นนี้มีชุมชนเก่าอยู่ท้ายๆซอย จึงมีรถเข้า-ออกตลอดเวลา ทำให้ไม่เปลี่ยวค่ะ ส่วนภายในถนนฮาบิโตะก็มีรถวิ่งผ่านไปมาตลอด เพราะภายในมีคอนโดอื่นๆของแสนสิริอยู่เช่นกัน

Image 1/4
บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง

บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง

ด้านหน้าโครงการเป็นถนนฮาบิโตะ , Bangkok Prep International School และ Sansiri Children’s Playground

Image 1/7
Sales Gallery ของโครงการอยู่ติดถนนฮาบิโตะ

Sales Gallery ของโครงการอยู่ติดถนนฮาบิโตะ

Sales Gallery ของโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) อยู่ติดถนนฮาบิโตะ ถัดจาก Sansiri Children’s Playground ด้านหน้าพื้นที่ก่อสร้างเลยค่ะ ภายใน Sales Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 2 Type คือห้อง 1A – 1m (Pet) ขนาด  34.25 – 34.50 ตารางเมตร และห้อง 2Am ขนาด  62.00 – 62.50 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีโมเดลโครงการรวมถึงโมเดลผังเมืองให้ดูด้วยนะ ทำให้เราเห็นอาคารโดยรอบแบบ 3 มิติ ก็จะพอนึกภาพออกและเลือกตำแหน่งได้ง่ายขึ้นค่ะ

Image 1/5
ภายใน Sales Gallery มีคาเฟ่อยู่ด้วย

ภายใน Sales Gallery มีคาเฟ่อยู่ด้วย

ภายใน Sales Gallery มีคาเฟ่อยู่ด้วยนะ มีเมนูน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพเพียบเลย หรือเมนูกาแฟต่างๆก็มีขายเช่นเดียวกัน ใครเป็นสาย Healthy ลองแวะมาชิมกันได้นะ วันนี้เราลองเมนู Vital Vibe ไปแล้ว เป็นรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับคนไม่ค่อยทานผักผลไม้อย่างเรา แต่กลับรู้สึกว่ามันเข้ากันดี กินง่าย แล้วยังช่วยให้รู้สึกสดชื่นดีค่ะ หากใครมาวิ่งออกกำลังกายใน Sansiri Children’s Playground อยู่แล้ว เข้ามายังคาเฟ่จากประตูด้านข้างสวนได้เลยนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Habito Mall ~ 450 m.
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 1.1 km.
  • Summer Hill ~ 1.7 km.
  • People Park ~ 2.0 km.
  • Gateway Ekamai ~ 2.5 km.
  • Lotus’s อ่อนนุช ~ 2.8 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท ~ 2.3 km.
  • รพ.สุขุมวิท  ~ 3.0 km.
  • รพ.รวมใจรักษ์  ~ 3.4 km.
  • รพ.วิมุต-เทพธารินทร์  ~ 3.5 km.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท  ~ 4.9 km.
  • รพ.คามิลเลียน  ~ 5 km.

โรงเรียน

  • Bangkok Prep International School (On Nut Campus) ~ 230 m.
  • St.Andrews (Sukhumvit 71 Campus) ~ 1.9 km.
  • St.Andrews (Srivikorn Campus) ~ 2.2 km.
  • Ekamai International School (EIS) ~ 3 km.
  • St.Andrews (Sukhumvit 107 Campus) ~ 7.3 km.
  • Bangkok Patana ~ 9.4 km.

การเดินทาง

  • BTS อ่อนนุช ~ 1.5 km.
  • ทางด่วนฉลองรัช ~ 2.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • มีอาคาร Clubhouse แยกจากอาคารพักอาศัย : แขกอยู่ได้แค่บริเวณนี้ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว
  • วางผังอาคารล้อมส่วนกลาง : ห้องที่หันเข้าด้านในโครงการว่าจะได้วิวสวนส่วนกลางแบบเต็มๆ
  • สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ : 4.5×44 เมตร ยาวกว่าสระว่ายน้ำที่มีในคอนโดทั่วๆไปเกือบ 2 เท่า เหมาะกับคนชอบออกกำลังกาย

โครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) เป็นโครงการภายใต้แบรนด์ ‘HAUS’ ใหม่ล่าสุด หลังจากแสนสิริเปิดตัวคอนโดรุ่นพี่อย่าง Kawa , Mori , Hasu , Mekin ไปแล้ว ซึ่งยังคง Concept ธรรมชาติไว้อยู่เช่นเดิม โดยคำว่า ‘valles’ หมายถึงภูเขา เราจึงได้เห็นตัวอาคารสี Earth Tone มี Texture ที่เหมือนวัสดุธรรมชาติ นอกจากนี้รูปทรงอาคารยังยื่นเข้า-ออกให้มีความสูงต่ำเหมือนกับเนินภูเขาอีกด้วยนะ

โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น 3 อาคารและมีอาคาร Clubhouse แยกออกมาต่างหากอีก 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ  6 ไร่ รวมทั้งหมด 408 ยูนิต โดยแบ่งเป็นอาคาร A และ B มีจำนวน 138 ยูนิต ส่วนอาคาร C จำนวน 132 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบๆที่ยังเปิดขายอยู่ ถือว่าเป็นจำนวนยูนิตที่น้อยเป็นอันดับต้นๆเลยนะ เพราะโครงการโซนนี้มักเป็น High Rise จึงมีจำนวนยูนิตตั้งแต่ 500 กว่าๆไปจนถึง 700 กว่าๆเลยค่ะ โครงการนี้จึงได้ความสงบมากกว่าที่อื่นๆ

มาเริ่มกันที่ Master Plan ของ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) กันเลยค่ะ  มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้นคือจากฝั่งถนนฮาบิโตะ ทั้งลูกบ้านและแขกที่มาเยี่ยมเยือนต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน โดยโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้เลย ส่วนแขกที่มาเยี่ยมต้องแลกบัตรก่อนนะ เส้นทางเดินรถภายในโครงการเป็นแบบ One Way หากเราแค่มาส่งเพื่อนก็วนออกไปทางวงเวียนต้นไม้ได้เลย ส่วนลูกบ้านในโครงการจะต้องขับรถไปตามทาง โดยเริ่มจากอาคาร A ไปจนถึงอาคาร C สำหรับที่จอดรถมีมากถึง 55%  ซึ่งถือว่าให้มามากกว่าโครงการเพื่อนบ้านที่มักให้มาราวๆ 30%-40% โครงการจึงเหมาะกับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยแหละ โดยที่จอดรถจะอยู่ชั้น 1 ทั้งหมดและส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดแบบใต้ชายคา ทำให้รถของเราไม่ต้องตากแดดตากฝน

ชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ค่อนข้างพลุกพล่านเพราะมีทั้งแขกที่มาเยี่ยมโครงการ และคนที่มาใช้งาน Facility ส่วนกลาง โครงการจึงยกห้องพักอาศัยทั้งหมดไปอยู่ชั้นบน ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะคนนอกเข้าถึงไม่ได้ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว เริ่มจากอาคาร Clubhouse ที่มี Lobby Lounge อยู่ชั้นล่าง ลูกบ้านทุกอาคารจะมาใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมกัน ส่วนด้านหลังอาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการ เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสวนส่วนกลาง ที่อาคารพักอาศัยโอบล้อมอยู่ ทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้าโครงการได้บรรยากาศชองสระว่ายน้ำและสวนสวยๆ

แต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์ , Mail Room และ Laundry Room มาให้ต่างหาก ลูกบ้านลงมาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องหอบผ้าไปอาคารอื่น แต่ต่างกันตรงที่อาคาร A จะมี Facility อื่นๆให้ใช้งานอย่าง Fitness , Yoga Room , Pilates Room ใครที่เป็นสายออกกำลังกาย แนะนำให้อยู่อาคาร A จะลงมาใช้งานได้สะดวกที่สุดนะ ถึงแม้ว่า Facility จะอยู่ชั้น 1  แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยนะเพราะทุกฟังก์ชันส่วนกลาง ยกเว้น Lobby Lounge จะต้องสแกนหน้าก่อนถึงจะมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ อาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคารมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์สักนิดนะคะ

คอนโดนี้เป็น Pet Welcome สามารถเลี้ยงสัตว์ที่ไม่เป็นอันตรายได้ เช่น หมา , แมว โดยจะต้องมีน้ำหนักขนาดแรกเข้าไม่เกิน  15 กิโลกรัม แต่ถ้าอยู่ๆไปแล้วน้องอ้วนขึ้นทะลุ 15 กิโลกรัมไปก็ไม่เป็นไรน้า 🙂 โดยโครงการจัดให้กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์อยู่ที่อาคาร C เท่านั้น เพื่อความเป็นสัดส่วนและไม่รบกวนคนที่ไม่เลี้ยงสัตว์ด้วย บริเวณข้างๆอาคาร C มี Pet Park โดยเฉพาะ น้องๆไม่ต้องไปใช้สวนส่วนกลางปะปนกับลูกบ้านโซนอื่นๆเลยค่ะ

อาคาร Clubhouse อยู่ใกล้กับบริเวณ Drop Off มากที่สุด แขกที่มาเยี่ยมโครงการเข้าถึง Lobby Lounge บริเวณชั้นแรกได้โดยไม่ต้องผ่าน Access Control ภายในโครงการเตรียมลิฟต์ไว้ให้ 1 ตัวเผื่อผู้สูงอายุมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง

Lobby Lounge เปิดให้แขกที่มาเยี่ยมโครงการมานั่งคอยเพื่อน ในกรณีที่มาหาลูกบ้านแล้วลูกบ้านยังไม่ลงมารับ หรือจะใช้เป็นพื้นที่พบปะพูดคุยเวลาไม่สะดวกให้เเขกขึ้นไปบนห้องก็ได้นะ ภายในมีทั้งมุมนั่งพบปะพูดคุยกัน และมุมนั่งผ่อนคลายที่มีเก้าอี้นวดรองรับชาวออฟฟิศที่ปวดเมื่อยร่างกายจากการทำงาน

Image 1/2
บรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness

บรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness

อาคาร A มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกายอย่าง Fitness อยู่ด้วย เราสามารถมาออกกำลังกายพร้อมชมวิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางไปพร้อมๆกัน ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ภายในยังมีทั้ง Yoga Room และ Pilates Room อีกด้วยนะ อีกหนึ่งที่พิเศษคือห้องน้ำของส่วนกลางมี Steam & Experience Shower ที่เราสามารถปรับเสียงและแสงขณะใช้งานได้ ทำให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น

Image 1/4
บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ

บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำกลางแจ้งของโครงการเป็นระบบเกลือ มีขนาดประมาณ 4.5×44 เมตร ยาวกว่าสระว่ายน้ำแบบ Half Olympic ที่มักมีในโครงการทั่วๆไปเกือบ 2 เท่า ใครชอบออกกำลังกายจริงจัง สระว่ายน้ำของโครงการนี้ตอบโจทย์มากเลยนะ ส่วนตัวเคยว่ายน้ำในสระยาวๆแบบนี้เหมือนกัน พอว่ายเสร็จก็สัมผัสได้ถึงอาการเหนื่อยและหอบจริงๆ แต่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือน Mission Complete ในเรื่องการออกกำลังกาย ตัวสระว่ายน้ำได้ร่มเงาจากอาคารพักอาศัยที่โอบล้อมอยู่ จึงสามารถมาว่ายน้ำได้เกือบทั้งวันทั้งช่วงเช้า และบ่ายๆเป็นต้นไปเลยนะ

สวนข้างๆอาคาร C เป็น Pet Park ที่ออกแบบมาให้น้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ มีลู่วิ่งและกิจกรรมต่างๆให้น้องๆได้ทำหรือออกกำลังกายด้วย

Image 1/4
ผังอาคารชั้น 2

ผังอาคารชั้น 2

ชั้น 2 มีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัย แต่อยู่คนละอาคาร การใช้งานจึงไม่ปะปนกัน ลูกบ้านเลยไม่เสียความเป็นส่วนตัว ชั้นบนของอาคาร Clubhouse เป็น Co-Working Space รองรับคนที่ Work From Home แล้วอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ เราต้องสแกนหน้าก่อน ถึงจะเข้าไปใช้งานส่วนนี้ได้นะ

ชั้น 3-7 ของอาคาร A , B ,C  เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยโซนพักอาศัยของชั้น 2-7 จัดมาเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ชั้น 3-4 มีสวนหย่อมเล็กๆพอให้เราได้เชยชมได้บ้าง ซึ่งเรามองว่ามีโซนที่น่าสนใจอยู่ 4 โซนด้วยกัน

  • โซนในกรอบเส้นประสีเขียว : เป็นห้องพักอาศัยที่อยู่ฝั่งคอร์ทส่วนกลาง ลูกบ้านโซนนี้จึงได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำ , สวนส่วนกลางชั้น 1 ซึ่งคอนโด Low Rise จะเน้นบรรยากาศภายในโครงการมากกว่าวิวโดยรอบโครงการค่ะ
  • โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน :  อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความรวดเร็วในการเข้าถึงตัวห้องพัก
  • โซนในกรอบเส้นประสีเหลือง :  เป็นห้องที่อยู่หัวมุมอาคาร ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว
  • โซนในกรอบเส้นประสีแดง : อยู่ติดกับสนามเทนนิส เป็นการการันตีว่าจะไม่มีอาคารสูงๆมาบังวิวเราในระยะประชิด

Co-Working Space มีทั้งพื้นที่ทำงานและ Meeting Room ให้เราได้ใช้งาน รองรับการทำงานแบบเดี่ยวแบบกลุ่ม และการประชุมเล็กๆ สำหรับ Meeting Room จะต้องทำการจองก่อนนะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมที่ Outdoor Facilities
  • สวนสําหรับสัตว์เลี้ยง
  • สวนผักออร์แกนิค
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 4.5×44 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • มีการแบ่งสระเด็ก ขนาดประมาณ 4×4  เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Pilates Room
  • Yoga Room
  • Sauna
  • Lobby
  • Co-Working Space
  • Meeting Room
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 55 %
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV/ Liv-24 / Key Card / Face Scan
  • รถรับ-ส่งจากโครงการไป BTS อ่อนนุช

แบบบ้าน

Highlight

  • ขนาดห้องเริ่มต้นมีขนาด 33.75 ตร.ม. : ใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom ทั่วไปที่มักมีขนาด 20 กว่าตร.ม.
  • มีห้อง Type ใหญ่ให้เลือก : สูงสุดอยู่ที่ 3 Bedroom เหมาะกับการอยู่กันเป็นครอบครัว 3-4 คนได้เลยนะ
  • ได้เครื่องกรองอากาศแรงดันบวกทุกยูนิต : ช่วยกรอง Pm 2.5 ได้ ลูกบ้านไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องกรองอากาศเพิ่มเติม
  • กั้นห้องด้วยผนังหนา 20  ซม. : ช่วยกันเสียงน้องหมาน้องแมวไม่ให้รบกวนข้างห้อง
  • ห้องเลี้ยงสัตว์ได้มี Double Skin Balcony : ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย และขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากขึ้น
  • ห้องน้ำมีทางเข้าแบบ Jack & Jill ทุกยูนิต : เข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้งานสะดวก

ห้องพักของโครงการ  valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) จะขายแบบ Fully Fitted คือได้ Built-in ห้องครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น แต่จะมีให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน เช่น โต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า เราจึงมีโอกาสได้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆตามสไตล์ของตัวเอง โดยที่ห้องพักของโครงการมีราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท

โครงการมีห้องพักอาศัยให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 3 Bedroom รองรับการอยู่อาศัย 1-4 คน เมื่อเทียบกับโครงการทั่วไปที่มักมีห้องใหญ่สุดคือ 2 Bedroom เท่านั้น ห้อง 3 Bedroom จึงเป็นของหายากในโซนนี้เลยค่ะ

Image 1/8
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.0-34.75 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.0-34.75 ตร.ม.

ปัจจุบันโครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์)  มีห้องในเลือกหลักๆ 4 แบบดังนี้ โดยห้องแต่ละแบบ จะมี Type ที่รองรับสัตว์เลี้ยงด้วยนะ

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33.75-35.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 47.75 – 48.25 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 61.25 – 62.50 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 90.25 ตร.ม.

สรุปวัสดุในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้น SPC หนา 5.5 mm.
  • วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×60 cm. สีเทา
  • ประตู HDF ปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ พร้อมชุดอุปกรณ์ Digital Door Lock ของยี่ห้อ Kaadas
  • บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีน้ำตาลแชมเปญ

ห้องครัว

  • วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 cm. สี Moon shadow
  • ท็อปหินสังเคราะห์ พร้อม Hob & Hood ของ Teka ระบบดูดควันออกภายนอก
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้

ห้องน้ำ

  • วัสดุพื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×30 cm. สี Moon shadow
  • ชุดสุขภัณฑ์ จาก Kohler
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ เมลามีนลายไม้
  • ฉากกั้นอาบน้ำ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom : 1A – 1m (Pet) ขนาด 34.25 – 34.50 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างแรกที่เราจะพาไปชมคือห้อง 1A – 1m (Pet) ขนาด 34.25 – 34.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้อง Type เริ่มต้นที่นับว่ามีขนาดใหญ่สุดในย่านเลยนะ เพราะห้อง 1 Bedroom มักมีขนาดประมาณ 20 ปลายๆตารางเมตร ส่วนฟังก์ชันภายในห้องนี้มีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ด้วยความที่เป็นห้อง Type รองรับสัตว์เลี้ยง จะมีการออกแบบพิเศษ ดังนี้ค่ะ

  • กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ :  เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่อาศัยกัน 2 คน ทำให้คนที่ใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
  • ห้องนอนมีขนาดใหญ่ : ดูจากแปลนจะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนใหญ่กว่าห้องนั่งเล่น ห้องมีขนาดใหญ่พอที่จะแบ่งพื้นที่ทำเป็นมุมแต่งตัวหรือมุมทำงานได้เลยนะ
  • ห้องเลี้ยงสัตว์ได้มี Double Skin Balcony : ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย และขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากขึ้น
  • ห้องน้ำมีทางเข้าแบบ Jack & Jill  : เข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้งานสะดวก
  • ได้ครัวปิด : ทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นของบ้าน

ทางเข้าห้องมีธรณีประตูเพื่อช่วยกันฝุ่นกันน้ำจากทางเดินส่วนกลางไม่ให้เข้าห้อง

ฟังก์ชันของห้องพักอาศัยคือห้องครัวขนาดใหญ่ประมาณ 2.8×2.4 เมตร กว้างพอให้เราช่วยกันทำอาหารได้ 2-3 คน แล้วยังเหลือพื้นที่ให้คนเดินผ่านไปมาได้สบายๆ ตัวห้องปูด้วยพื้น SPC หนา 5.5 มิลลิเมตร หนากว่าแบบมาตรฐานปกติเล็กน้อย จึงทำให้แข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่า เหมาะกับการใช้ในห้องที่มีสัตว์เลี้ยงนะ เราชอบที่โครงการเลือกใช้พื้นสีน้ำตาลเข้ม ช่วยให้ห้องดูอบอุ่นยิ่งกว่าเดิม ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ส่วนฝ้าของห้องครัวสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปประมาณ 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 2.5 เมตร เวลาใช้งานห้องครัวจึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

ฝั่งหนึ่งของห้องครัวบริเวณหน้าประตูมีพื้นที่ว่างพอให้เราทำ Built-in ตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้เราหยิบ-เก็บรองเท้าเวลาเข้า-ออกจากห้องได้สะดวก หรืออยากทำเป็นโต๊ะ สำหรับวางของที่ต้องใช้บ่อยๆ เช่น กุญแจรถ , กุญแจบ้านก็ได้เช่นกัน ส่วนฝั่งที่ติดกับห้องนั่งเล่นจะทำเป็นมุมสำหรับสัตว์เลี้ยงแบบห้องตัวอย่าง หรือใครที่ไม่ชอบให้กลิ่นอาหารลอยไปโซนอื่นของห้อง จะจัดเป็นมุมรับประทานอาหารเล็กๆก็ได้

ฝั่งหนึ่งโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ไว้ พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นให้เรียบร้อย

Image 1/3
ห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ห้องครัวกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน อีกทั้งรางประตูยังถูกฝังให้เรียบเสมอไปกับพื้น เดินเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดล้ม ครัวแบบปิดช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆของห้อง เราชอบที่โครงการเลือกให้อลูมิเนียมสีน้ำตาลเเชมเปญ กลมกลืนกับห้อง และดูสบายตาดีค่ะ

Image 1/3
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของพร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง มือจับตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง ทำให้เราจับพอดีมือ เปิดตู้ได้สะดวก ตัวบานเป็น MDF กันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วนนอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร , เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร , เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันแบบดูดออกไปด้านนอก ซึ่งใช้งานได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันฟุ้งมากนัก ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารใช้เตรียมอุปกรณ์ทำครัวได้สะดวก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกเป็นพิเศษ ทำให้เวลาเราล้างจาน น้ำกระเด็นออกมาน้อยลง

Image 1/4
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ

ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ

ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น ดูเรียบร้อยดี  นอกจากนี้ยังมีช่องวางไมโครเวฟอีกด้วยนะ เรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวก ไม่ต้องก้มๆเงยๆ หยิบอาหารจากไมโครเวฟ

สำหรับห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งได้อย่างชัดเจน ใช้งานสะดวก วัสดุปูพื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×30 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

ห้องน้ำมีทางเข้าแบบ Jack & Jill สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ทำให้เราไม่เสียความเป็นส่วนตัว เวลาแขกมาใช้งาน ในขณะเดียวกันเจ้าของห้องก็มาใช้งานได้สะดวกเวลาตื่นนอนกลางดึก

Image 1/5
ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler

ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler

ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆของ Kohler ไว้ครบครันเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ด้วย เอาไว้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้ เช่น สบู่ , แชมพูและทิชชู ที่เราชอบคือตู้กระจกสามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อย เช่น แปรงสีฟัน , สกินแคร์ต่างๆที่ใช้เป็นประจำ ช่วยให้บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเราไม่รกค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะ เป็นบานสวิง มีมือจับแบบยาวใช้แขวนผ้าขนหนูได้ เวลาเราอาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดตัวได้เลย ไม่ต้องเดินตัวเปียกไปหยิบผ้าขนหนูจากราวแขวนบริเวณอ่างล้างหน้า ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมเจาะผนังทำเป็นช่องวางของ แข็งแรงกว่าการติดตั้งชั้นวางของอีกค่ะ เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำเช่น แชมพู , สบู่ และหยิบใช้งานได้สะดวก

ห้องครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ช่วยให้ห้องดูกว้างและโปร่งมากขึ้น

Image 1/2
Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน

Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน

Common Area มีขนาดประมาณ 2.75×2.95 เมตร พื้นที่ตรงนี้รวมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน สำหรับพื้นที่นั่งเล่นกว้างพอจะวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง สำหรับวางน้ำและขนมเวลาดูหนัง โดยบริเวณนี้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.75 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 55-60 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด ห้องนี้มีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.7 เมตร จึงทำให้ดูโปร่งขึ้น

พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ภายใน Common Area เราสามารถทานข้าวพร้อมกับเปิดทีวีดูไปเพลินๆได้ด้วยนะ พื้นที่ตรงนี้วางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้ แนะนำให้จัดแบบเข้ามุม เพื่อประหยัดพื้นที่

Image 1/3
ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 2 ตอน

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 2 ตอน

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน  เราดินเข้า-ออกได้สะดวก

Image 1/5
พื้นที่ระเบียงแบบ Semi-Outdoor

พื้นที่ระเบียงแบบ Semi-Outdoor

ระเบียงมีขนาดประมาณ  1.6 x 0.75 เมตร พื้นที่บริเวณนี้สามารถปรับเปลี่ยนไปเป็นระเบียงหรือพื้นที่ Semi-Outddor ได้ เพียงแค่เราเปิดหน้าต่างก็สามารถนั่งพักผ่อนชิลๆพร้อมรับลมสูดอากาศ หรือจะปิดหน้าต่างให้พื้นที่ตรงนี้กลายมาเป็นพื้นที่ indoor เช่นเดิม แล้วยกให้พื้นที่ของน้องหมาน้องแมวไปเลยก็ได้ แต่ที่เราชอบคือโครงการแบ่งสัดส่วนของระเบียงฝั่งหนึ่งไว้แขวน Condensing Unit ของแอร์ แล้วทำฉากกั้นปิดไว้ ดูเรียบร้อยมองไปก็สบายตาค่ะ

Image 1/2
ราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก ความถี่ประมาณ 5 ซม.

ราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก ความถี่ประมาณ 5 ซม.

สำหรับห้องที่เลี้ยงสัตว์ได้จะได้ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กที่มีความถี่ประมาณ 5 ซม. ป้องกันไม่ให้น้องหมาน้องแมวตกลงมาค่ะ แต่ก็ไม่ได้ถี่จนบังทัศนียภาพของน้องๆ เราลองลงไปนั่งแล้วมองออกมาในระดับสายตาเดียวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงก็ยังเห็นวิวภายนอกอยู่ค่ะ

ส่งท้ายห้อง 1 Bedroom ด้วยห้องนอนที่มีขนาดประมาณ  2.7×4.8 เมตร กว้างพอจะแบ่งเป็นโซนพักผ่อนแล้วยังมีพื้นที่เหลือทำเป็นมุมแต่งตัวหรือทำงานได้ด้วยนะ

Image 1/4
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

ห้องนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง แล้วยังเหลือพื้นที่พอให้เดินรอบเตียงได้เล็กน้อย ใครชอบดูทีวีก่อนนอนแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนเพื่อประหยัดพื้นที่นะคะ

ห้องนอนมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่  ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ทุกมุม ห้องจึงดูสว่าง ส่วนหนึ่งของหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือกันเวลาฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานเปิด

Image 1/3
มุมแต่งตัวอยู่หน้าห้องน้ำพอดี

มุมแต่งตัวอยู่หน้าห้องน้ำพอดี

ฝั่งหนึ่งของห้องนอนจัดเป็นมุมแต่งตัวได้ ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่หน้าห้องน้ำพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่องเราอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก มุมนี้โครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าพร้อมกับชุดโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง

ภายในห้องนอนโครงการติดตั้งเครื่องกรองอากาศแรงดันบวก แบบเดียวกับที่ติดในบ้านของแสนสิริหลายๆโครงการมาด้วย ช่วยกรอง Pm2.5 ทำให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์มากขึ้น เอาใจคนที่เป็นภูมิแพ้อากาศค่ะ


ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom : 2Am ขนาด 62.00 – 62.50 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างที่ 2 คือห้อง 2 Bedroom Type 2Am ขนาด 62.00 – 62.50 ตร.ม. ออกแบบมาเป็นห้องหน้ากว้าง มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวปิดและ 1 ห้องนั่งเล่น รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวพ่อแม่ลูกได้เลยนะ เหมาะกับการอยู่ 2-3 คน

  • ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว : สมาชิกในครอบครัวใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินออกมายังห้องนั่งเล่น เพื่อเข้าห้องน้ำ
  • กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ : เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่อาศัยกัน 2 คน ทำให้คนที่ใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
  • ห้องน้ำมีทางเข้าแบบ Jack & Jill  : เข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้งานสะดวก
  • ได้ครัวปิด : ทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นของบ้าน
  • มีเครื่องกรองอากาศแรงดันบวก : อยู่ทุกในห้องนอน ช่วยกรอง Pm 2.5 อากาศในห้องนอนจึงบริสุทธิ์ขึ้น

ระหว่างพื้นห้องพักกับพื้นทางเดินส่วนกลางมีธรณีประตูกั้นไว้ กันฝุ่นและน้ำจากภายนอกไหลย้อน

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับห้องครัวก่อน แต่ก็ยังเห็น Common Area ขนาดใหญ่ที่อยู่ถัดเข้าไป พื้นที่ตรงนี้เป็นแนวยาวติดกับหน้าต่างทำให้มีแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาในห้องอย่างทั่วถึง ส่วนความสูงฝ้าของห้องโซนนี้อยู่ที่ 2.7 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งด้วย

นอกจากนี้มีห้องครัวที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งหมดเข้าหากันได้ ยิ่งทำให้ Common Area ดูกว้างไปอีก วัสดุปูพื้นเป็น SPC หนา 5.5 มม. เหมือนกับห้องที่เลี้ยงสัตว์ได้ แข็งแรง คงทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีทีเดียวค่ะ

ที่พิเศษคือทุกยูนิตกั้นด้วยผนัง 20 ซม. หนากว่าปกติ 5-10 ซม. ช่วยป้องกันเสียงเพื่อนบ้านไม่ให้รบกวนกัน ซึ่งเป็นข้อที่เราชอบมากเลยนะ เพราะต่อให้เราอยู่อาคาร A , B ที่ไม่เลี้ยงสัตว์ ก็อาจมีเสียงดังรบกวนเวลาข้างห้องจัดงานสังสรรค์ปาร์ตี้หรือเปิดเพลงเสียงดังได้ การที่โครงการให้กำแพงกั้นห้องมาหนาเป็นพิเศษ จะช่วยลดปัญหาพวกนี้ได้เยอะเลยค่ะ

Image 1/2
ประตูห้องครัวเปิด-ปิดได้ เพื่อเชื่อมต่อหรือกั้นพื้นที่กับ Common Area

ประตูห้องครัวเปิด-ปิดได้ เพื่อเชื่อมต่อหรือกั้นพื้นที่กับ Common Area

ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นห้องครัวปิดที่กั้นด้วยประตูแบบเข้ามุม ทำให้ห้องยังดูโปร่ง ไม่อึดอัดแล้วยังช่วยกันกลิ่นควันจะลอยไปรบกวนโซนอื่นๆในบ้าน เราจึงทำอาหารได้อย่างเต็มที่ หรือเวลาที่ไม่ได้ทำกับข้าวจะเปิดประตูห้องครัวทิ้งไว้ เพื่อให้ห้องดูกว้างและโล่งขึ้นก็ได้เช่นกัน

สำหรับห้องครัวมีขนาด  2.25×1.85 เมตร พอให้คนมาช่วยกันทำครัวได้ 2 คน โครงการ Built-in เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นให้เรียบร้อย

Image 1/5
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของและช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของและช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ด้านล่าง

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้า สำหรับคนที่ไม่ชอบส่งผ้าไปซักด้านนอก ตัวบานเปิดตู้เป็น MDF กันความชื้นได้ดี พร้อมปิดผิวด้วยลามิเนตทนต่อรอยขีดข่วน

Image 1/4
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร , เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาหาร , เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน

เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L จึงมีการแบ่งฝั่งล้างจานกับฝั่งทำอาหารได้อย่างชัดเจน Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น ทำความสะอาดง่าย เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ ส่วนที่ต่างกันคือห้องนี้จะได้เตาไฟฟ้าจาก Teka  แบบ 4 หัวเตานะ เอาใจคนที่ชอบทำอาหารมากเลย

Image 1/5
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ

ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ

ด้านบนมีตู้เก็บของที่มาพร้อมบานปิดตู้ดูเรียบร้อยดี แล้วยังช่วยกันฝุ่นควันจากการทำอาหารไปเลอะของด้านใน ส่วนอีกฝั่งเป็นชั้นวางของ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟได้พอดี เรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวก ไม่ต้องก้มๆเงยๆ หยิบอาหารจากไมโครเวฟ

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำ

ตรงข้ามกับห้องครัวเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอนรอง ทำให้เจ้าของห้องและแขกที่มาเยี่ยมเยืยนใช้งานสะดวก ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน

Image 1/5
ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler

ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Kohler

ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของมาให้ สามารถเก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในห้องน้ำได้ เช่น ทิชชู , แชมพู , สบู่ที่เราซื้อมาเก็บไว้ นอกจากนี้ตรงตู้กระจกยังมีฝั่งหนึ่งที่เปิดออกมาใช้เก็บของได้อีกนะ เปิดใช้งานได้สะดวก จึงแนะนำให้เก็บของที่ใช้บ่อยๆ เช่น แปรงสีฟัน , โฟมล้างหน้า

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกมาเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ด้านในให้ทั้ง Hand Shower , Rain Shower ใช้งานได้อย่างเต็มที่

Image 1/2
บรรยากาศ Common Area

บรรยากาศ Common Area

Common Area ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร ภายในห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่ และได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ สำหรับพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางของกินเวลาดูทีวีได้ด้วย สำหรับระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.4 เมตร จึงเหมาะกับการติดตั้งทีวี 50-55 นิ้ว

พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโต๊ะกินข้าว 4 ที่นั่งได้สบายๆ เราสามารถนั่งทานข้าวไปพร้อมกับดูทีวีได้ด้วย แล้วพื้นที่ตรงนี้ก็ใกล้กับห้องครัว ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราทำอาหาร เสิร์ฟอาหารได้สะดวก

Image 1/2
ประตูระเบียงบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูระเบียงบานเลื่อน 3 ตอน

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอน จึงเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน เดินเข้า-ออกได้สะดวก

Image 1/3
พื้นที่ระเบียง

พื้นที่ระเบียง

ระเบียงของห้องมีขนาดประมาณ 0.9×3.2 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน หรือสวนกระถางได้ ฝั่งหนึ่งของระเบียงกั้นไว้เป็นพื้นที่แขวน Condensing Unit ของแอร์ ทำให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อยดี แต่ฉากั้นจะไม่ได้ทึบเหมือนห้องสำหรับเลี้ยงสัตว์นะ แต่ทำเป็นระเเนงเพื่อระบายความร้อน

ราวกันตกของห้องทั่วไปที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์จะแตกต่างออกไป เพราะเป็นราวกระจก ทำให้เรามองวิวด้านนอกได้ชัด สำหรับคนที่ชอบให้ลมพัดผ่านเข้ามาในห้องก็สามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อเชื่อมพื้นที่ระเบียงกับห้องนั่งเล่นได้

Image 1/3
บรรยากาศห้องนอนรอง

บรรยากาศห้องนอนรอง

ห้องนอนรองจะเข้าถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดาห้องนอน ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.75×3.65 เมตร เรามองว่าห้องนี้มีการวางผังออกมาคล้ายกับห้องนอนของห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ ภายในห้องวางเตียง 5-6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆเตียงอีก หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนเพื่อประหยัดพื้นที่นะ

ห้องนอนมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่  ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง ส่วนหนึ่งของหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือกันเวลาฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานเปิด

Image 1/3
มุมแต่งตัวภายในห้องนอนรอง

มุมแต่งตัวภายในห้องนอนรอง

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอน ติดกับห้องน้ำเป็นมุมแต่งตัว เราอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาแต่งตัวต่อได้เลย ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง ซึ่งโครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าพร้อมชุดโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วยนะ มุมนี้เราไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมก็ใช้งานได้เลยค่ะ

ห้องนอนทุกห้องติดตั้งเครื่องกรองอากาศแรงดันบวก ช่วยกรอง Pm2.5 ทำให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์มากขึ้น

แผงควบคุมอากาศภายในห้องนอนสามารถเช็คค่า Pm2.5 , ความชื้นและอุณหภูมิห้องได้ด้วยนะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Master Bedroom

บรรยากาศภายใน Master Bedroom

ปิดท้ายกันด้วย Master Bedroom ที่มีขนาด 5.5×2.75 เมตร ใหญ่พอที่เราจะแบ่งสัดส่วนห้องออกเป็นพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่แต่งตัวเลยค่ะ ภายในห้องวางเตียง 5-6 ได้สบายๆ หากใครอยากดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะ

หน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่เข้ามุม ทำให้เเสงธรรมชาติเข้ามาอย่างทั่วถึง ส่วนหนึ่งของกระจกเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้แล้วยังกันฝนสาดได้ดีอีกด้วย

Image 1/3
มุมแต่งตัวภายใน Master Bedroom

มุมแต่งตัวภายใน Master Bedroom

มุมแต่งตัวอยู่หน้าห้องน้ำ ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่อง  โครงการให้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาด้วย เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัวเลยนะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Master Bathroom

บรรยากาศภายใน Master Bathroom

Master Bathroom มีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำอื่นๆ ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน

Image 1/5
ตู้กระจกเปิดออกใช้เป็นตู้เก็บของได้

ตู้กระจกเปิดออกใช้เป็นตู้เก็บของได้

ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆของ Kohler ไว้ครบครันเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ด้วย เอาไว้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้  ตู้กระจกสามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อย เช่น แปรงสีฟัน , สกินแคร์ต่างๆที่ใช้เป็นประจำ ช่วยให้บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเราไม่รก

Image 1/2
โครงการให้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาด้วย

โครงการให้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาด้วย

ที่พิเศษว่าห้องน้ำอื่นๆคือโครงการให้อ่างอาบน้ำแบบฝังมาด้วย พร้อมฝักบัว Hand Shower ที่ซ่อนสายไว้ในตัวอ่าง ทำให้ดูเรียบร้อยดี ใครที่ชอบแช่น้ำอุ่นก่อนนอนคงจะถูกใจพื้นที่บริเวณนี้ไม่น้อย

Image 1/2
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.35×0.95 เมตรยืนอาบน้ำได้สะดวก ภายในเจาะผนังไว้ให้เราวางอุปกรณ์อาบน้ำ แข็งแรงดี ไม่ต้องกลัวว่าของจะไหลตกลงมาเลย แล้วยังหยิบของใช้งานได้สะดวกอีกด้วย

ราคา

valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ราคา ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2568

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33.75-35.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร / ห้องครัว 2.5 เมตร / ห้องน้ำ 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink ยี่ห้อ Teka / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood ยี่ห้อ Teka
  • มีรถ Shuttle Service ไปกลับ BTS อ่อนนุช
  • ค่าจอง / ทำสัญญา /ค่าส่วนกลางและค่าแรกเข้าของสัตว์เลี้ยง โปรดสอบถามโครงการเพิ่มเติม

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) ตั้งอยู่ติดถนนฮาบิโตะใน T77 Community ที่มีทั้งแหล่งงาน , โรงเรียนนานาชาติและ Community Mall ครบครัน ถนนเส้นนี้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จากซอยปรีดีพนมยงค์ 2 และถนนอ่อนนุช  แต่ที่เรามองว่าน่าสนใจคือโครงการอยู่ตรงข้าม Bangkok Prep International School ผู้ปกครองเดินไปส่งลูกหลานได้ในระยะเพียง 80 เมตร !!! ให้เด็กๆตื่นก่อนเข้าเรียกสักครึ่งชั่วโมงยังไปเรียนทันเลยนะ เหมือนได้ซื้อเวลานอนให้ลูกๆหลานๆไปในตัวค่ะ นอกจากนี้โครงการยังใกล้กับ Habito Mall แค่ 450 เมตรไปหาของกินของใช้ได้สะดวกมากๆเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนฮาบิโตะเชื่อมออกไปยังถนนอ่อนนุชและซอยปรีดีพนมยงค์ 2   ซึ่งถนนทั้ง 2 เส้นจะเชื่อมต่อไปยังถนนหลักอย่างถนนพัฒนาการและถนนสุขุมวิท ทำให้เราเดินทางเข้าตัวเมืองไปโซนอโศก หรือออกไปทางสำโรง , ศรีนครินทร์ได้ง่ายขึ้น ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดประมาณ 2.2 กิโลเมตร คือทางด่วนฉลองรัชฝั่งไปลาดพร้าว , รามอินทรา  โครงการมีที่จอดรถไว้ให้ 55% นับว่ามากที่สุดในโซนนี้เลยนะ เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โลเคชั่นโครงการห่างจาก BTS อ่อนนุชประมาณ 1.5 กิโลเมตร เราสามารถนั่งรถรับ-ส่งของโครงการไปใช้รถไฟฟ้าได้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางค่ะ

วัสดุ :โครงการขายแบบ Fully Fitted วัสดุต่างๆให้มาเหมาะสมกับราคา พื้นปูด้วย SPC 5.5 มม. หนากว่ามาตรฐานทั่วไปเล็กน้อย จึงแข็งแรงและกันรอยขีดข่วนดีกว่า ความสูงฝ้าเพดานของโครงการอยู่ที่ 2.7 เมตร ซึ่งสูงกว่าโครงการทั่วไปๆ 20-30 ซม.เลยนะ ห้องจึงดูโปร่งเป็นพิเศษ เราชอบที่วัสดุบางอย่างปรับไปตาม Type ห้อง เช่น ห้องที่เลี้ยงสัตว์ได้จะได้ราวกันตกเป็นระแนงถี่ 5 ซม. เพื่อนกันน้องๆตกลงไป ส่วนห้องทั่วไปจะได้ราวกันตกเป็นกระจก เพื่อให้ชมวิวได้ชัดๆ นอกจากนี้ทุกห้องยังได้เครื่องกรองอากาศแรงดันบวกในทุกห้องนอน ซึ่งไม่ได้มีในทุกโครงการนะ

การออกแบบโครงการ : โครงการเป็นคอนโด Low Rise 3 อาคาร และอาคาร Clubhouse 1 อาคาร โดยวางผังให้อาคารพักอาศัยโอบล้อมอาคาร Clubhouse ช่วยให้ห้องที่หันเข้าด้านในโครงการได้วิวสวนส่วนกลางเต็มๆ  Clubhouse ที่แยกออกมาเปิดให้แขกมานั่งคอยลูกบ้านได้แค่ชั้นแรก ทำให้สะดวกต่อการนัดแนะเพื่อน ไม่ต้องลงมารับแขกในทันที กรณีที่ติดธุระ แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้านอยู่ นอกจากนี้ยังยกห้องพักอาศัยไปไว้ชั้นบนทั้งหมด แยกโซนพักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางชัดเจน โครงการแยกอาคารที่เลี้ยงสัตว์ได้กับอาคารพักอาศัยทั่วไปไว้คนละมุม ช่วยลดการรบกวนจากสัตว์เลี้ยงได้

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : โครงการมีห้องพักอาศัยให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ตั้งแต่ 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องแบบเดียวกันในโครงการรอบๆ ไปจนถึงห้อง 3 Bedroom ที่หาได้ยากในโซนนี้ ฟังก์ชันภายในห้องจัดเป็นสัดส่วน ทุกยูนิตได้ครัวปิด และห้องน้ำแบบ Jack & Jill ใช้งานได้สะดวก สำหรับห้องที่เลี้ยงสัตว์ได้จะได้ Double Skin Balcony สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ

สาธารณูปโภค : Facilities ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน แต่ละฟังก์ชันมักมีความพิเศษกว่าโครงการเพื่อนบ้าน เช่น สระว่ายน้ำที่มีความยาวถึง 44 เมตร นับว่ายาวกว่าสระว่ายน้ำทั่วไปเกือบ 2 เท่า เราว่ายน้ำได้สะใจเต็มที่ ส่วน Fitness ก็มี Pilates Room และ Yoga Room อยู่ภายใน เราจึงมีตัวเลือกในการออกกำลังหลากหลาย ส่วนห้องน้ำส่วนกลางก็มี Experience Shower ที่สามารถปรับเสียงและแสงขณะใช้งานได้ ทำให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น Facility ที่น่าสนใจไม่ได้มีแค่สำหรับคนเท่านั้นนะ เพราะโครงการมี Pet Park  สำหรับเพื่อนซี้ตัวจิ๋วของเราแยกไว้ต่างหาก เราพาน้องๆมาวิ่งเล่นออกกำลังกายได้ชิลๆ ส่วนกลางจัดเต็มขนาดนี้ ถ้าค่าส่วนกลางจะสูงกว่าเพื่อนบ้านอยู่บ้าง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 145,000 บาท/ตร.ม., 2 สิงหาคม 2568

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ใน T77 Community ใกล้โรงเรียนนานาชาติ , Habito Mall
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – จากโครงการเข้าออกได้ 2 ทาง เดินทางไปถนนสุขุมวิท และถนนพัฒนาการได้ง่าย มีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ใกล้ๆ
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มี Shuttle Service รับ-ส่ง BTS อ่อนนุช
  • วัสดุ 8/10 – Fully Fitted ให้เครื่องกรองอากาศแรงดันบวกทุกห้องนอน วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน
  • แบบ 8.5/10 – แยกอาคารที่เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ ฟังก์ชันภายในห้องจัดเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ พื้นที่ระเบียงตามไปตาม Type ห้อง
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีอาคาร Clubhouse แยกจากอาคารพักอาศัย สระว่ายน้ำยาว 44 เมตร มี Pet Park

  • UPPER CLASS
  • 7.97 / 10.00

valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) เหมาะกับใคร

โครงการ valles HAUS (วาลเลส เฮาส์) เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่คอนโดย่านอ่อนนุช โดยเฉพาะคนที่มีลูกหลานอยู่โรงเรียนนานาชาติ มองหาทำเลที่ไปออฟฟิศตามแนวสุขุมวิทได้ง่าย ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็อยากอยู่ไม่ไกลจาก BTS อ่อนนุช รวมถึงคนที่มีสัตว์เลี้ยงด้วย ชอบโครงการที่แยก Clubhouse ออกจากโซนพักอาศัยโดยเฉพาะ ชอบพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มและสวยงาม  ห้องพักมีหลายขนาดรองรับคนได้ 1-4 คน ชอบตกแต่งห้องเป็นสไตล์ของตัวเอง ใครที่มีงบประมาณระดับ 4.69 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 32,830 บาท/เดือนก็สามารถจับจองโครงการนี้ได้แล้วค่ะ

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่